ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

“ช่างพูด-ช่างคุย-ช่างทำ” หุ่นยนต์ไทยกระตุ้นเด็กออทิสติก

วันที่ลงข่าว: 22/04/13

 

 แม้ว่ากิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการเด็กออทิสติกโดยพ่อแม่และผู้เชี่ยวชาญจะเป็นสิ่งที่ดีต่อเด็กพิเศษมากกว่า แต่ธรรมชาติของเด็กกลุ่มนี้มักกลัวการสื่อสารกับคนทั่วไป เพราะ “คาดเดายาก” จึงนำไปสู่การพัฒนาหุ่นยนต์ “ช่างพูด-ช่างคุย-ช่างทำ” ซึ่งชวนเด็กพูด คุย ขยับปากและท่าทาง เพื่อเสริมพัฒนาการ และหวังต่อยอดสู่การเสริมพัฒนา

        

       “แม่ที่เจนีวาที่มีลูกเป็นออทิสติก มาดูเราแล้วก็ตื้นตันใจจนน้ำตาไหล” ผศ.ดร.ปัณรสี ฤทธิประวัติ จากภาควิชาวิศวกรรมการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงผลตอบรับหลังนำหุ่นยนต์ 3 ตัว คือ “ช่างพูด”, “ช่างคุย” และ “ช่างทำ” ไปจัดแสดงภายในงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์นานาชาติครั้งที่ 41 (41st International Exhibition of Inventions of Geneva) ณ กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ 

       

       ช่างพูด, ช่างคุย และช่างทำเป็นหุ่นยนต์ที่ทีมวิจัยพัฒนาขึ้นมาเพื่อหวังกระตุ้นพัฒนาการของเด็กออทิสติก โดย ผศ.ดร.ปัณรสี อธิบายถึงหน้าที่ของหุ่นยนต์ช่างทำว่า ข้อสันนิษฐานของนักวิทยาศาสตร์ถึงความผิดปกติในเด็กออทิสติก คือเด็กมีอาการดังกล่าวเนื่องจากมีความเสียหายในเซลล์ประสาทที่เรียกว่า เซลล์กระจก (mirror neurones) การเลียนแบบท่าทางคนอื่น หรือคนอื่นเลียนแบบท่าทางของเด็กจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ดังกล่าวได้ 

       

       “หากแต่ปัญหาคือเด็กออทิสติกซึ่งมักอยู่ไม่นิ่ง และมักกลัวการสื่อสารกับคน เพราะท่าทางของคนนั้นคาดเดาได้ยาก การที่เด็กไม่เริ่มต้นเลียนแบบสิ่งรอบตัว ทำให้ความสามารถในการสื่อสารไม่พัฒนา ซึ่งส่งผลต่อไปถึงการเรียนรู้ของเด็ก เด็กหุ่นยนต์คาดเดาได้ง่ายกว่า” ผศ.ดร.ปัณรสี กล่าวถึงงานวิจัยที่ได้รับทุนพัฒนาจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นเวลา 3 ปีและดำเนินเข้าสู่ปีสุดท้ายแล้ว

       

       หุ่นยนต์ช่างทำจะออกแบบท่าทางให้เด็กออทิสติกเลียนแบบตาม ซึ่งจากการทดลองทีมวิจัยพบว่าเด็กออทิสติกที่มักกระโดดไปรอบตัวและอยู่ไม่สุขนั้น นิ่งแล้วเริ่มเลียนแบบท่าทางของหุ่นยนต์ ขณะเดียวกันหุ่นยนต์ก็มีความสามารถในการเลียนแบบท่าทางของเด็กออทิสติกด้วย

       

       ส่วนหุ่นยนต์อีก 2 ตัว คือช่างพูดและช่างคุยนั้น ทีมวิจัยออกแบบมาเพื่อพัฒนาการพูดของเด็กออทิสติก โดยช่างพูดเป็นหุ่นยนต์ที่ออกเสียงให้เด็กพูดตาม และไม่มีการขยับปากให้เห็นจึงพัฒนาขึ้นเป็นช่างคุย ที่ติดตั้งแท็บเล็ตเพื่อแสดงรูปปากขณะขยับเป็นเสียงพูด 

       

 

 ทีมวิจัยได้ทดสอบการทำงานของหุ่นยนต์ในเด็กออทิสติกวัย 3-10 ขวบ โดยแบ่งเป็นการทดลองดูความสนใจของเด็กต่อหุ่นยนต์ การทดลองเรื่องการเลียนแบบ และการทดลองเรื่องฝึกพูดซึ่งอยู่ระหว่างการปรับรูปแบบการทดลอง ซึ่งแต่ละการทดลองนั้นทดสอบในเด็ก 10 คน แต่ทุกการทดลองต้องทดสอบในเด็กปกติก่อน และมีผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดเด็กออทิสติกประจำการทดลอง 2 คน 

       

       ทั้งนี้ ทีมวิจัยคาดหวังว่าจะพัฒนาหุ่นยนต์ไปสู่การเสริมพัฒนาการในเด็กปกติด้วย รวมทั้งพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับแท็บเล็ตเพื่อเสริมพัฒนาการในส่วนของพัฒนาการด้านการพูด และผลจากการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ภายในงานนิทรรศการที่เจนีวา ระหว่างวันที่ 10-14 เม.ย.56  ทีมวิจัยได้รับคัดเลือกให้รับรางวัลเหรียญทองเกียรติยศ (Gold Medal with the Congratulation of the Jury) ด้วย

       

       ด้าน ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่คัดเลือกผลงานสิ่งประดิษฐ์ไทยจากทุกหน่วยงานเข้าร่วมแสดงในนิทรรศการที่เจนีวา กล่าวว่า ผลงานที่นำไปจัดแสดงต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นชิ้นเป็นอัน และเป็นผลงานที่จดสิทธิบัตรแล้วหรือกำลังจดสิทธิบัตร

       

       งานดังกล่าวที่จัดขึ้นโดยการสนับสนุนของรัฐบาลสวิส และองค์กรทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) มีผลงานสิ่งประดิษฐ์กว่า 1,000 ผลงานจากทั่วโลกร่วมจัดแสดง และมีผลงานประมาณ 30% ที่ไม่ได้รับรางวัลและได้รับเพียงประกาศเกียรติคุณ สำหรับประเทศไทยได้รับรางวัลทั้งหมดรวม 48 รางวัล จากผลงานจัดแสดง 37 ผลงาน

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 19 เมษายน 2556

ภาพประกอบข่าวประจำวัน

^ กลับสู่เนื้อหาหลัก