ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

อิงลิชโปรแกรมกศน.เตรียมคนไทยสู่อาเซียน

วันที่ลงข่าว: 19/04/13

 

กศน.เริ่มนำร่องเปิดหลักสูตร English Program และ Mini English Program ในปี 2555 มาได้ 1 เทอมแล้ว "ประเสริฐ บุญเรือง" เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ยืนยันด้วยความภูมิใจว่า หลักสูตรอินเตอร์นี้ได้รับเสียงตอบรับจากทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในภารกิจเตรียมความพร้อมคนไทยรองรับประชาคมอาเซียน 2558 นี้

 

          "ภาษาอังกฤษก็มีความจำเป็นมากในโลกยุคโลกาภิวัตน์ ขณะเดียวกัน เมื่อรวมกันเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว ภาษาอังกฤษจะเป็นภาษากลางที่ใช้ในการสื่อสาร จำเป็นต้องพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้คนไทย กศน.จึงเปิดหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษขึ้นทั่วประเทศ ผู้ที่เรียนจบจากหลักสูตรนี้แล้วจะเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อนำวุฒิภาคภาษาอังกฤษไปสมัครงานนั้น จะมีโอกาสได้ค่าตอบแทนสูงขึ้น ที่สำคัญ การเรียนในหลักสูตร English Program และ Mini English  Program นั้น กศน.ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้เรียนแม้แต่บาทเดียว ทั้งนี้ เพราะ กศน.ต้องการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ด้อยโอกาส คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะอ่อนภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ก็จะได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองบ้าง และไม่ต้องไปเสียเงินราคาแพงเข้าโรงเรียนสอนภาษา มาเรียนกับ กศน.นอกจากจะฟรีแล้ว ยังได้วุฒิการศึกษาสายสามัญติดตัวด้วย" ประเสริฐ กล่าว

 

          หลักสูตร English Program นั้น เปิดทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยใช้เวลาเรียน 2 ปี 4 เทอม เหมือนการเรียนภาคปกติ การเรียนการสอนจะเป็นภาษาอังกฤษเต็มรูปแบบ ทุกวิชาสอนเป็นภาษาอังกฤษหมด ยกเว้นวิชาภาษาไทยและสังคมวิทยา โดย กศน.จัดงบสนับสนุนให้หัวละ 6,000 บาท ทำให้ไม่จำเป็นต้องเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้เรียน สำหรับครูผู้สอนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนนั้น กศน.กำหนดให้มีครูชาวต่างชาติประจำทุกจุดที่เปิดสอน ส่วนครูชาวไทยจะเป็นผู้ที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ก่อนลงสนามจริง กศน.จะจับอบรมครูให้ทั้งครูไทยและครูชาวต่างชาติ เพื่อให้รู้จักกับปรัชญาของ กศน. หลักสูตรของ กศน. และแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียน กศน. ซึ่งมีความแตกต่างจากนักเรียนทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานซึ่งต้องใช้จิตวิทยาในการสอนมากกว่า

 

          ปัจจุบันมีห้องเรียน English Program และ Mini English  Program ทั่วประเทศทั้งหมด 90 ห้อง กระจายอยู่ครบทั้ง 77 จังหวัด จะรับผู้เรียนจำนวน 30 คนต่อ 1 ห้องเรียน บางจังหวัดที่มีความนิยมและมีความพร้อม อาจเปิด 2 ถึง 3 ห้อง ประเสริฐ บอกว่า จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเยอะจะมีความนิยมมากเป็นพิเศษ อย่างเช่น เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ หรือ อุบลราชธานี แต่โดยภาพรวมแล้วทุกจังหวัดมีคนสมัครเรียนครบทั้ง 30 ที่นั่ง ส่วนอายุผู้เรียนก็หลากหลาย มีตั้งแต่ผู้เรียนที่อายุ 20 ปี ไปจนถึง 70 ปี อย่างที่เชียงใหม่มีคนอายุ 75 ปีมาเรียนด้วย

 

          การเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ย่อมมีปัญหาบ้างในระยะแรก ประเสริฐ บอกว่า หลักสูตร English Program ของ กศน.ใช้วิธีนำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 มาแปลเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยความเร่งรีบในการเตรียมตัว เพราะฉะนั้นบางคำศัพท์จึงแปลออกมายากเกินไป ขณะนี้อยู่ระหว่างขัดเกลาคำศัพท์ที่ยากๆ นี้ ให้เป็นคำศัพท์ง่ายๆ เหมาะกับผู้เรียนของ กศน. รวมถึงการทำสื่อการเรียน การสร้างกิจกรรมการเรียนที่สนุกสนาน น่าสนใจมากขึ้นด้วย

 

          ในปีการศึกษา 2556 ซึ่งจะเปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคมนี้ กศน.ก็ยังคงเปิดหลักสูตร English Program ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เพื่อให้หลักสูตรนี้ของ กศน.มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ประเสริฐ บอกว่า เมื่อสิ้นสุดภาคเรียนในเดือนสิงหาคมนี้แล้ว กศน.จะจัดจ้างคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาทำวิจัยเพื่อหาข้อดีและข้อบกพร่องในการดำเนินการ ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยนี้ จะนำมาปรับปรุงหลักสูตร English Program ให้มีมาตรฐานมากขึ้น

 

          น.ส.วริศรา เศรษฐาวงค์ (อานีล) อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดอุดรธานี หนึ่งในนักศึกษาหลักสูตร “English Program” ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของ กศน.อำเภอเมืองกระบี่ จบประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันทำอาชีพนวดแผนไทยอยู่ที่อ่าวนาง อยากเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น พอทราบว่ามีการเปิดหลักสูตร “English Program” เรียนฟรีด้วย จึงรีบมาสมัครเข้าเรียนทันที เรียน 2 เดือนแล้ว อ่านได้มากขึ้น สามารถส่งเอสเอ็มเอส และอีเมล ถึงสามีชาวเยอรมันได้ สามารถนำความรู้จากการเรียนภาษาอังกฤษไปใช้ประโยชน์กับอาชีพที่ทำอยู่ได้ เพราะมีลูกค้าชาวต่างประเทศเข้ามาใช้บริการในร้านเป็นจำนวนมาก สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือติดต่อ สายด่วน กศน. โทร.1660

.......................................

(หมายเหตุ อิงลิชโปรแกรมกศน.เตรียมคนไทยสู่อาเซียน : รายงาน โดย... สุพินดา ณ มหาไชย)

ที่มาของข่าว หนังสืิพิมพ์คมชัดลึก ออนไลน์ วันที่ 19 เมษายน 2556
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก