ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ก.แรงงาน ทำงานเชิงรุกลงพื้นที่พบสถานประกอบการภาคเอกชน เชิญชวนร่วมโครงการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 2566 สร้างโอกาสให้คนพิการ

วันที่ลงข่าว: 05/08/22

          กระทรวงแรงงาน ทำงานเชิงรุกลงพื้นที่พบสถานประกอบการภาคเอกชน เชิญชวนร่วมโครงการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 2566 เป้าหมาย 1,200 คน เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำให้คนพิการ

          นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยเน้นสร้างโอกาสแก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ เพื่อให้มีหลักประกันทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนกลุ่มเปราะบางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภายใต้การขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประเภทจ้างเหมาบริการ ให้มีความต่อเนื่อง โดยกรมการจัดหางานเดินหน้าเชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 เปลี่ยนมาให้สิทธิคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการด้วยการจ้างงานแทนการส่งเงินเข้ากองทุนฯ

          โดยกำหนดเป้าหมายการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 2566 ไว้จำนวน 1,200 คน เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายปี 2565 ที่กำหนดไว้ 1,000 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือสถานประกอบการภาคเอกชน จำนวน 196 แห่ง ที่เคยมีการให้สิทธิคนพิการฯ จำนวน 1,499 คน เข้าร่วมโครงการต่อเนื่องในปี 2566 ต่อไป เพื่อให้คนพิการได้รับโอกาสมีอาชีพ มีงานทำอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

          ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน ลงพื้นที่เชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการ ที่ใช้สิทธิจ้างเหมาบริการแทนการส่งเงินเข้ากองทุนฯ อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนในหน่วยบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนใกล้บ้าน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ ศูนย์บริการคนพิการของเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ล่าสุด กลุ่มบริษัท สหวิริยาฯ ร่วมจ้างงานคนพิการ 26 คน และกลุ่มบริษัท ชัยรัชการ อีก 9 คน ในส่วนภาคเอกชน 5 ลำดับแรกที่มีการจ้างงานผู้พิการมากที่สุด ได้แก่ 1.บมจ. ธนาคารกสิกรไทย 2. บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ 3.บมจ.แคล - คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) 4.บริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ (ประเทศไทย) จำกัด และ 5.บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก