ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เดินหน้าเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมแห่งแรกจังหวัดอุตรดิตถ์ ย้ำรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน พร้อมดึงเด็กกลับมาเรียนหนังสือ

วันที่ลงข่าว: 25/04/22

          นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลเด่นเหล็ก อำเภอน้ำปาด ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลแห่งแรกของจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมทั้งมอบความช่วยเหลือต่างๆ ตามภารกิจกระทรวง พม. อาทิ เงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหากรณีฉุกเฉิน จำนวน 33 ครอบครัว เงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ จำนวน 10 ครอบครัว และนมผงสำหรับเด็ก จำนวน 20 ครอบครัว

          นายจุติ กล่าวว่า อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่ที่มีความยากลำบากเพราะตั้งอยู่บนภูเขา ชาวบ้านทำการการเพาะปลูกกระเทียมและหอมแดง ต้องทำให้พื้นที่นี้มีมูลค่าและผลิตสินค้าแปรรูปให้ได้ เพื่อจะได้มีความคุ้มค่ากับประชาชนได้ประกอบอาชีพและมีส่วนหนึ่งไปประกอบอาชีพรับจ้างที่อื่น เพราะพื้นที่นี้ไม่มีโรงงาน แต่ในที่สุดแล้วเมื่อความเจริญเข้ามาถึง ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งทางสังคมและทางเศรษฐกิจ

          ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลแห่งนี้ จะเป็นศูนย์ที่ช่วยเหลือประชาชนที่มีความยากลำบาก มีปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยจะช่วยให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการบริการของศูนย์แห่งนี้ได้ ซึ่งเดินทางมาลงพื้นที่นี้ เพราะต้องการทำตามนโยบายของรัฐบาล คือเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องการให้ประชาชนลดความกลัวและสามารถเข้าใช้ประโยชน์จากศูนย์แห่งนี้ เมื่อประสบปัญหา

          นายจุติ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีนโยบายแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า โดยในปีนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายว่าอยากให้ดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือนและความยากจนของประชาชน รวมไปถึงเรื่องการศึกษา เพราะมีเด็กนักเรียนอีกหลายแสนครอบครัวที่ลูกหลานไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องผลักดันให้เด็กเหล่านั้นกลับไปเรียนหนังสือให้ได้ ขณะนี้รัฐบาลมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเพื่อให้กู้ยืมเงิน โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน สำหรับเด็กที่ไม่มีเงินเรียน สามารถไปขอเงินสนับสนุนได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ว่า ถ้าใครอยากเรียน แต่ไม่ได้เรียน เพราะไม่มีเงิน รัฐบาลจะช่วยให้ได้เรียนหนังสือ เพราะรัฐบาลอยากให้เด็กทุกคนมีโอกาส มีอนาคตและสามารถดูแลตัวเองได้

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก