ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

นักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 12 (พตส. 12) ห่วงน้องผู้พิการทางสายตา รวมพลังน้ำใจแห่งศรัทธา บำเพ็ญประโยชน์ สมทบทุนการศึกษา ให้น้อง ๆนักเรียน"โรงเรียนธรรมิกวิทยา"(โรงเรียนสอนคนตาบอด)จังหวัดเพชรบุรี

วันที่ลงข่าว: 03/12/21

          วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ศ.ดร.สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง, นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และคณะนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 12 (พตส. 12) ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม (csr) มอบทุนการศึกษาและสิ่งของที่จำเป็นให้แก่ โรงเรียนธรรมิกวิทยา (สอนคนตาบอด) ตำบลสระพัง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี

          ศ.ดร.สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า นักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 12 ซึ่งเป็นบุคลากรที่มาจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งนักการเมือง ภาคเอกชน ข้าราชการระดับสูงเพื่อมาเรียนรู้ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากเสริมสร้างทางด้านองค์ความรู้ เพื่อใช้ในการพัฒนาองค์กร พัฒนาประเทศชาติแล้ว ยังเห็นถึงความสำคัญ ในด้านการสร้างปลูกจิตสำนึก การเสียสละ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อสังคม ด้วยความร่วมมือ หลอมรวมน้ำใจ จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ด้วยความห่วงใยให้น้องผู้พิการทางสายตา รวมพลังน้ำใจแห่งศรัทธา สมทบทุนการศึกษา และมอบสิ่งของที่จำเป็นให้น้อง ๆ นักเรียน"โรงเรียนธรรมิกวิทยา" (โรงเรียนสอนคนตาบอด) ซึ่งเห็นถึงความด้อยทางกายภาพ ที่เราจะต้องช่วยกันสร้างโอกาส ให้เขาได้มีความสุขในสังคม สานต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ถือว่าทุกคนนั้น มีสิทธิและเสรีภาพเท่ากัน เพราะฉะนั้นความไม่เท่าเทียมกันทางกายภาพ เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความช่วยเหลือ โดยน้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนธรรมิกวิทยาได้ร่วมร้องเพลงหยาดเพชร ไฟแห่งฝัน พร้อมร่ายบทกลอนแทนคำขอบคุณให้กับผู้ใหญ่ใจดี ผู้ร่วมสมทบทุนการศึกษาด้วย

          สำหรับโรงเรียนธรรมิกวิทยา หรือชื่อเดิมว่าโรงเรียนการศึกษาวิทยาศาสตร์คนตาบอด แต่ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระเมตตาพระราชทานชื่อโรงเรียนให้ใหม่ว่า "โรงเรียนธรรมิกวิทยา" และทรงเขียนความหมายให้ว่า "โรงเรียนธรรมิกวิทยา หมายความว่า โรงเรียนที่มีซึ่งวิชาความรู้และการประพฤติในความดี" โรงเรียนได้จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชปรารภของพระองค์ท่านที่ทรงอยากเห็นคนตาบอดเรียนวิทยาศาสตร์เหมือนคนตาบอดในต่างประเทศ

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก