พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในนามอาเซียนในฐานะที่ไทยเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 24 ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนและนายกรัฐมนตรีคิชิดะ ฟูมิโอะ นายรัฐมนตรีญี่ปุ่น 

          นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เน้นย้ำความสำคัญกับอาเซียน ผ่านการส่งเสริมความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมภายใต้มุมมองอาเซียนต่ออินโด-เเปซิฟิก (AOIP)เเละ ข้อริเริ่มต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการรับมือกับโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาร่วมกัน ซึ่งญี่ปุ่นห่วงกังวลต่อกรณีพิพาทในภูมิภาคและสถานการณ์ในภูมิภาค

          ด้านนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า อาเซียนและญี่ปุ่น จะร่วมกันพัฒนาให้ก้าวหน้าในทุกมิติ พร้อมขอบคุณที่ญี่ปุ่นได้สนับสนุนอาเซียนในรูปแบบต่างๆ ในการรับมือกับโควิด-19 และอาเซียนมุ่งมั่นที่จะสานต่อการขยายความร่วมมือกับญี่ปุ่นผ่านกลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำ ทั้งในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ส่วนด้านเศรษฐกิจ อาเซียนสนับสนุนให้ภาคธุรกิจของญี่ปุ่นลงทุนในอาเซียนต่อไป และประสงค์ให้ RCEP มีผลบังคับใช้ในโอกาสแรก นอกจากนี้อาเซียนยินดีกับการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19

          ทั้งนี้ยินดีกับความคืบหน้าของการเจรจาเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปของ COC ที่ครอบคลุมและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยอาเซียนเน้นย้ำการหารืออย่างสันติเพื่อให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์ โดยพร้อมที่จะมีบทบาทสร้างสรรค์ ผ่านกลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำ

          โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำความมุ่งมั่นของอาเซียน ที่จะขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นให้ก้าวไกล มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนยิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น พร้อมผลักดันการจัดการประชุมสุดยอดฯ สมัยพิเศษ ที่ญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 2023 ตามความประสงค์ของญี่ปุ่น