ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ทัพลูกเด้งพาราไทย” ลั่นเต็มถังพร้อมลุยพาราลิมปิกเกมส์ 2012

วันที่ลงข่าว: 17/08/21

          “ทัพลูกเด้งพาราไทย” ลั่นเต็มถังพร้อมลุยพาราลิมปิกเกมส์ 2012  ตั้งเป้าเข้าชิงฯ อย่างน้อย 2 รายการ “รุ่งโรจน์ ไทยนิยม” จอมตบความหวัง เร่งเสริมแท็คติกลูกเสิร์ฟ ไว้เผด็จศึกคู่แข่ง

“ทัพลูกเด้งพาราไทย” ประกาศความพร้อมเต็มร้อย หลังเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างยาวนานกว่า 4 ปีเต็ม ตั้งเป้าหมายเข้าชิงอย่างน้อย 2 รายการ จาก “รุ่งโรจน์ ไทยนิยม” จอมตบลูกเด้งพาทีมชาติไทยดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2012 ในประเภทชายเดี่ยว คลาส TT 6 และในประเภททีม 2 คลาส อย่าง คลาส TT 6-7 และ คลาส TT 3 ด้าน “รุ่งโรจน์ ไทยนิยม” ชี้ สภาพร่างตัวของตนเอง พร้อมเกือบ 90 เปอร์เซ็นแล้ว พร้อมเติมแท็คติกลูกเสิร์ฟ และ การรับลูกเสิร์ฟให้แน่นอนมากขึ้น แต่ยังถ่อมตัวตั้งเป้าขอแค่เข้ารอบรองฯก่อนเป็นอันดับแรก

          ตามที่ “ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย” ที่กำลังเตรียมพร้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬา พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน 2564 โดยมีนักกีฬาพาราไทย ได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 75 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน,วีลแชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด ซึ่งถือเป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

          ความเคลื่อนไหวของทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย คว้าโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันได้ถึง 12 คน ได้สิทธิ์ลงชิงชัยถึง 17 รายการ ซึ่งทั้งหมดเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึก​ “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” อย่างเต็มที่

          “รุ่งโรจน์ ไทยนิยม” นักตบลูกเด้งพาราหนุ่มทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2012 และ เหรียญทองแดง ปี 2016 เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองว่า “ที่ผ่านมาได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อม และแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะติดปัญหาบ้างเล็กน้อยในช่วงสถานการณ์โควิด แต่เรายังสามารถฝึกซ้อมได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความอนุเคราะห์ ของคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี รวมถึงสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ให้การสนับสนุนและช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการอย่างเต็มมาโดยตลอด ทำให้เวลานี้เรามีสภาพร่างกายที่พร้อมพร้อมเกือบ 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นแล้ว ส่วนเรื่องสภาพจิตใจเต็มร้อยที่จะลงแข่งขัน

          “ส่วนเวลานี้เน้นซ้อมเรื่องเแท็คติก และเทคนิคต่างๆ ทั้งการเสิร์ฟ การรับลูกเสิร์ฟ หากสิ่งนี้ดีเราก็จะเป็นฝ่ายควบคุมเกมได้ เพราะในพาราลิมปิกเกมส์หนนี้ ต้องยอมรับว่าคู่แข่งแกร่งทุกคน ไม่ว่าจะเจอใครก็หนักหมด คู่แข่งที่น่ากลัวคงเป็น สเปน เพราะเจอกันที่ไรก็ผลัดกันแพ้ชนะมาตลอด แต่ที่ประมาทไม่ได้คือนักกีฬาหน้าใหม่จากโรมาเนีย เพราะเจอกัน 2-3 ครั้งหลังสุดก็ชนะแบบหืดจับทุกครั้ง"

          นักตบลูกเด้งความหวังทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องเป้าหมายในครั้งนี้ ไม่อยากกดดันตัวเอง เพราะทุกคนน่ากลัวหมด อย่างน้อยขอไปให้ถึงรอบรองชนะเลิศก่อน ซึ่งน่าจะติดเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อยแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามต้องขอกำลังใจจากแฟนกีฬาชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ด้วย เพราะหลังจากจบโอลิมปิกเกมส์ ยังมี พาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาของคนพิการให้ชมกันต่อเลย แต่ผมอยากให้แฟนกีฬาชาวไทย ตัดคำว่าพิการออกไป ให้มองว่าเราเป็นคนเหมือนกัน และมีธงชาติไทย ติดที่หน้าอกเหมือนกัน และจะให้ทุกคนดูกีฬาคนพิการได้สนุกไม่แพ่กีฬาคนปกติอย่างแน่นอน

          ขณะที่ ไมตรี คงเรือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมของทีมเทเบิลเทนนิสพาราทีมชาติไทย ชุดเตรียมลุยศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่ายินดีมากเพราะในครั้งนี้เรามีนักกีฬากีฬาที่ได้โควต้าเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ถึง 12 คน และได้ลงแข่งขันถึง 17 รายการ ส่วนความพร้อมของนักกีฬาต้องบอกว่าเราพร้อมแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็น เพราะที่ผ่านมาเรามีการเก็บตัวและออกไปแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง 4 ปีเต็ม ทำให้ทุกลงตัวและพร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาก็ว่าได้

           “ส่วนเป้าหมาย เราไม่อยากกดดันนักกีฬาว่าเราจะต้องกี่เหรียญทอง แต่สำหรับผมในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนค่อนข้ามีความมั่นใจว่าเรามีโอกาสเข้ารอบชิงฯอย่างน้อย 2 รายการ โดยเฉพาะในประเภทเดี่ยว คลาส TT 6 ของ รุ่งโรจน์ และ ประเภททีม คลาส TT 3 ที่มี อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ร่วมถึง คลาส TT6 - TT7 ที่มี เฉลิมพงษ์​ พันภู่ กับ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ซึ่งน่าจะมีโอกาสเข้าไปลุ้นเหรียญทองมากที่สุด แต่อย่างไรดีต้องหากมองในภาพรวมในรายการอื่นก็มีโอกาสลุ้นเหรียญเช่นกันแต่เราต้องดูสายแข่งขันและผลการประกบคู่ของแต่ละรายการด้วยว่าเป็นอย่างไร เราจะสามารถคาดเดาได้มากขึ้น”

         หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ดีในครั้งนี้เราหวังว่าทีมปิงปองคนพิการทีมชาติไทย จะสามารถสร้างรอยยิ้ม ความสุข และแรงบันดาลใจให้กับคนไทย ในยามวิกฤติแบบนี้ได้บ้าง เลยขอเขิญชวนอยากให้แฟนกีฬาชาวไทย มาร่วมติดตามและชมการแข่งขันของนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย และพวกเราสัญญาว่าจะนำความสุขและร้อยยิ้มมาให้กับคนไทยด้วยเช่นกัน

          สำหรับรายการชื่อนักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย ทั้ง 12 คน มีดังนี้ ประเภทยืน 4 คน รุ่งโรจน์ ไทยนิยม (คลาส TT6), เฉลิมพงษ์ พันภู่ (คลาส TT7), พิสิษฐ์​ หวังผลพัฒนสิริ (คลาส TT 8), คมกฤษณ์ จริตสัจ (คลาส TT 8) และประเภทนั่ง 8 คน อนุรักษ์ ลาววงษ์ (คลาส TT3), ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น (คลาส TT3), วันชัย ชัยวุฒิ (คลาส TT4), ถิรายุ เชื้อวงษ์ (คลาส TT2), ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา (คลาสTT2), ดารารัตน์ อาสายุทธ์ (คลาส TT3), วิจิตรา ใจอ่อน ( คลาส TT4), ปานวาด ศรีงาม (คลาส TT5) โดยทั้งหมดจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564

ที่มาของข่าว https://www.banmuang.co.th/news/sport/245953
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก