วันที่ 7 มิถุนายน 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานมอบป้ายสนับสนุนโครงการซ่อมสร้างบ้านให้ผู้ยากไร้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 111 หลัง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 69 พรรษา ณ ห้องประชุมประดิษฐ์จองคำ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน

        นายวรพงษ์ บุญเคลือบ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ดำเนินโครงการซ่อมสร้างบ้านให้ผู้ยากไร้จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 111 หลัง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 69 พรรษา เพื่อซ่อมสร้างบ้านให้กับคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ยากไร้ ตลอดจนเพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการซ่อมสร้างบ้าน และจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตให้กับคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ยากไร้ ที่มีบ้านไม่มั่นคง ไม่เหมาะสม หรือไม่ปลอดภัยกับการดำรงชีวิต กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย 1.คนพิการและผู้สูงอายุ จำนวน 83 ครอบครัว 2.ผู้ยากไร้ไม่มีที่อยู่อาศัย จำนวน 28 ครอบครัว

        ซึ่งงบประมาณในการซ่อมสร้างบ้านมาจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน 83 หลัง เป็นเงิน 2,800,000 บาท สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน 14 หลังๆ ละ 50,000 บาท เป็นเงิน 700,000 บาท อำเภอทุกอำเภอ 7 หลังๆ ละ 50,000 บาท เป็นเงิน 350,000 บาท องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน 7 หลังๆ ละ 65,000 บาท เป็นเงิน 455,000 บาท และขอรับบริจาคจากภาคส่วนราชการต่างๆ

        จากมติการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 โดยมีนายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธาน มติที่ประชุมได้อนุมัติโครงการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ ประจำปีงบประมาณ 2564 ให้ศูนย์บริการคนพิการทั่วไป ซึ่งจัดตั้งโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 8 แห่ง จำนวน 27 หลัง เป็นเงิน 960,000 บาท โดยใช้งบประมาณจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

        สำหรับการมอบป้ายสนับสนุนโครงการในครั้งนี้ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 18 แห่ง นำงบประมาณไปดำเนินการซ่อมแซมและปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้กับคนพิการ และผู้สูงอายุ จำนวน 50 หลัง ซึ่งเป็นคนพิการ จำนวน 38 หลัง (งบปกติ 11 หลัง กองทุน 27 หลัง) เป็นเงิน 1,300,000 บาท และผู้สูงอายุ จำนวน 12 หลัง (งบปกติ) เป็นเงิน 445,500 บาท รวม เป็นเงินทั้งสิ้น 1,745,500 บาท