ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รองผู้ว่าระนองปล่อยขบวนรถคาราวาน ธารน้ำใจ กู้ชีพ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 แจกจ่ายให้กับประชาชน

วันที่ลงข่าว: 12/05/21

        วันที่ 7 พ.ค.64  ที่บริเวณหน้าสำนักงานกาชาดจังหวัดระนอง นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นางปวีณ์ริศา เกิดสม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดระนองและเหล่ากาชาดระนอง ร่วมกันเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถคาราวาน ธารน้ำใจ กู้ชีพ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 พร้อมนำถุงยังชีพจำนวน 10 คันรถ ออกไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ ทั้ง 5 อำเภอ ของจังหวัดระนองที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 

        นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จังหวัดระนองได้รับสนับสนุนชุดธารน้ำใจฝ่าวิกฤตโควิด-19 จากสภากาชาดไทย จำนวน 940 ชุด เพื่อมอบให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วยอำเภอเมือง อำเภอละอุ่น อำเภอสุขสำราญ อำเภอกะเปอร์และอำเภอสุขสำราญ ซึ่งเบื้องต้น ทางจังหวัดระนองได้มอบหมายให้นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการอำเภอ อาสาสมัครสภากาชาดไทย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่ล่ะอำเภอ ได้ออกเยี่ยมและมอบชุดธารน้ำใจฯ ให้แก่ผู้กักตนเอง ซึ่งถุงยังชีพดังกล่าวนี้ เป็นการสำรวจคัดเลือกโดย อสม.พื้นที่ ที่ได้ร้องขอความช่วยเหลือผ่านแอฟพิเคชั่น หรือ "App .พ้นภัย" ของสภากาชาดไทย ซึ่งผู้ที่จะได้รับถุงธารน้ำใจ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ถูกกักตัวและผู้ด้อยโอกาส

        สำหรับโครงการสนับสนุนข้าวและอาหารยังชีพสำหรับผู้กักตนเองครั้งนี้ ทางสำนักบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย และเหล่ากาชาดจังหวัดระนอง ร่วมสนับสนุนข้าวและถุงยังชีพ สำหรับผู้ถูกกักกันโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต้องถูกกักตัวเองในที่พัก เป็นเวลานาน 14 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และเป็นบุคคลที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพตนเองหรือมีฐานะยากจน หรือเป็นผู้อายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป และไม่มีบุคคลในครอบครัวช่วยเหลือดูแล หรือเป็นผู้ป่วยเรื้อรังหรือผู้พิการ ทำให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวไม่ได้ออกไปประกอบอาชีพ และอาจไม่มีรายได้ในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งได้แจ้งผ่านนายอำเภอ อสม. ในหมู่บ้าน และแจ้งการขอรับสนับสนุนอาหารชุดยังชีพให้แก่ผู้กักตนเองในที่พักตามพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านระบบแอปพลิเคชั่น หรือ "App .พ้นภัย ของสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก