ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รองนายกรัฐมนตรี ยืนยัน ไม่มีนโยบายดำเนินคดีอาญากับผู้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่มีปัญหารับเงินซ้ำซ้อน

วันที่ลงข่าว: 08/02/21

           นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการค่าเบี้ยยังชีพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่า เป็นการรับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาค่าเบี้ยยังชีพว่ามีความคืบหน้าอย่างไร ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้พิจารณา วันนี้ไม่ได้มีการคุยกันในประเด็น หากไม่คืนเบี้ยคนชราจะต้องถูกดำเนินคดีอาญา รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะดำเนินคดีอาญาในขณะนี้ เพราะองค์ประกอบไม่เข้าความผิดฐานฉ้อโกง ดังนั้นยืนยันว่าจะไม่มีใครติดถูกดำเนินคดีเพราะเรื่องนี้ 

          ส่วนความรับผิดทางแพ่งคือ การคืนเงิน หากเป็นการปรับไว้โดยสุจริตแล้วเงินยังเหลืออยู่ก็ต้องคืน หากไม่มีเงินเหลือก็ไม่ต้องคืน รวมถึงหากมีเงินเหลืออยู่แต่ไม่ใช่เงินส่วนต่างกล่าวก็ไม่จำเป็นต้องคืนเช่นกัน ซึ่งผู้ที่ได้รับเบี้ยคนชราที่มีปัญหาซ้ำซ้อน 6,000 รายทั่วประเทศ หากจะต้องดำเนินการฟ้องร้องก็จะเป็นปัญหายืดยาว ดังนั้นจะต้องคิดกันว่าจะทำอย่างไรที่จะไม่ต้องเกิดคดีฟ้องร้องขึ้น สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ในการจ่ายเงินจะมีส่วนรับผิดด้วยหรือไม่จะต้องตรวจสอบอีกครั้ง

          นายวิษณุ กล่าวว่า นับจากนี้การดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพคนชราจะต้องหยุดดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าจะมีความชัดเจนซึ่งในอนาคตอาจจะได้รับเบี้ยคนชราก็ได้ เพราะตามระเบียบระบุไว้ชัดเจนว่าหากได้รับเงินบำเหน็จบำนาญอื่นอยู่จะไม่สามารถรับเบี้ยคนชราได้ ส่วนบัตรคนจนและเบี้ยคนพิการสามารถปรับได้ตามระเบียบ ทั้งนี้มีบางส่วนส่งคืนเบี้ยยังชีพคนชราแล้ว เป็นเงินกว่า 130 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วย เนื่องจากทราบว่าผู้ที่นำเงินมาคืนบางส่วนกู้เงินมาคืน หรือทำสัญญาว่าจะผ่อนชำระ

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก