ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รัฐบาล ดูแลกลุ่มเปราะบาง โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นพี่เลี้ยงลงทะเบียน “เราชนะ”

วันที่ลงข่าว: 01/02/21

          นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนทุกกลุ่ม ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวยาเป็นระยะๆ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนแก่ประชาชน ล่าสุดได้มีการเปิดให้ลงทะเบียนร่วมโครงการเราชนะไปแล้วเมื่อวานนี้เป็นวันแรก มีประชาชนมาลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์หลายล้านคน 

         อย่างไรก็ตาม ต่อข้อกังวลถึงกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนว่าจะลงทะเบียนอย่างไร ทางกระทรวงการคลังแจ้งว่าจะเปิดให้ประชาชนกลุ่มนี้ไปลงทะเบียนได้ที่ธนาคารของรัฐได้ทุกสาขาคือ  ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารกรุงไทย ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ส่วนรูปแบบการใช้เงินอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และสำหรับกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุและผู้พิการ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่และประสานเครือข่ายอาสาสมัครร่วมลงพื้นที่ระดับหมู่บ้านทำการประชาสัมพันธ์และอำนวยความสะดวกให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงสิทธิโครงการเราชนะ อีกทั้งทางกระทรวงฯได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือรองรับกรณีไม่ได้รับสิทธิไว้ด้วยและเริ่มโครงการ “พม. รถปันสุข สู่ชุมชน” ซึ่งเป็นรถที่จะกระจายของใช้ที่จำเป็นสู่ชุมชนที่เดือดร้อนอย่างมากจากโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัดที่ ศบค. ได้กำหนดไว้ก่อนหน้า พร้อมไปกับรถปันสุข เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ทำการประเมินสภาพครอบครัวกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้คำแนะนำช่องทางการหารายได้และการช่วยเหลือด้านสวัสดิการตามภารกิจ ของกระทรวงฯ อาทิ เงินสงเคราะห์ เงินทุนประกอบอาชีพ

          สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ได้เตรียมสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยไว้เพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง ผ่านกองทุนผู้สูงอายุและกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ โดยผู้สูงอายุสามารถขอกู้เพื่อประกอบอาชีพ รายละไม่เกิน 30,000 บาท 3 ปีแรกไม่คิดดอกเบี้ย ต้องมีผู้คำ้ประกัน ส่วนผู้พิการขอกู้ฉุกเฉินเพื่อประกอบอาชีพ รายละไม่เกิน 10,000 บาท ไม่มีดอกเบี้ย ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ยังมีการปล่อยสินเชื่อเงื่อนไขอื่นๆ ซึ่งประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่พัฒนาสังคมจังหวัด หรือโทร 1300  

 

 

 

 

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก