นายกฯ ชวนคนไทยเที่ยวงาน “OTOP City 2020”  ขนผลิตภัณฑ์ชุมชนทั้ง77 จังหวัดให้เลือกช้อปอย่างจุใจ 19-27 ธ.ค. ชมสตาร์ทอัพไทย ยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัล

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นำคณะ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ เข้าพบเพื่อจัดแสดงกระเช้าของขวัญของฝากจากผลิตภัณฑ์ชุมชนต่อ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์งาน “OTOP City 2020” ภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าถูกใจ รวมไว้ใน OTOP City 2020” โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 27 ธ.ค. 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์  1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          ทั้งนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ “รณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นของขวัญ ของฝากช่วงเทศกาลปีใหม่” เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนโดยนำมาจัดเป็นกระเช้าของขวัญ ของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานในวันที่ 21 ธ.ค  2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี และทรงให้จัดแสดงนิทรรศการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” จากการเสด็จไปทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ด้านผ้าและงานหัตถกรรม 3 ภูมิภาค โดยจัดแสดงกี่เจ้าฟ้าฯ ผ้าย้อมครามลวดลายพระราชทานและชุดเสื้อผ้าทั้งหมด 18 ชุด

ขณะที่ภายในงานจะเป็นการรวมงานหัตถศิลป์ทรงคุณค่า มรดกภูมิปัญญาจากท้องถิ่น แพรพรรณงานผ้า ผลิตภัณฑ์สินค้าจากชุมชน มาจัดแสดงและจำหน่ายให้พี่น้องประชาชน เป็นของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าจากชุมชน จึงขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมกันอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนจากภูมิปัญญาของคนไทย ที่คัดสรรจาก 77 จังหวัด เพื่อประชาชนคนไทย สุขใจทั้งผู้ผลิต ผู้ให้ ผู้ที่ได้รับมอบของขวัญ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น  ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาล

          โดยโอกาสนี้นายกฯ ได้สนใจซื้อผ้าลายรวงผึ้ง โดยผ้าดังกล่าวถือเป็นต้นแบบในการทำลวดลาย ซึ่งเป็นแนวพระดำริของเจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ ที่อยากให้ชาวบ้านหันมาใช้สีธรรมชาติมากขึ้น

          จากนั้นนายกฯ ชมนิทรรศการดิจิทัลสตาร์ทอัพ (Digital Thailand Big Bang : Digital Station) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยนายกฯ ได้ทดลองเล่นเกม Timeline ซึ่งเป็นรูปแบบเกมผจญภัยเพื่อฝึกลับสมอง โดยช่วยตัวละครในเกมหาทางออก ทั้งนี้นายกฯ ชื่นชมศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยที่สามารถพัฒนาเกมที่มีความสร้างสรรค์ ลดความรุนแรง ส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลให้สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังเดินหน้าขับเคลื่อนสตาร์ทอัพ อี คอมเมิร์ซ (E-Commerce) รวมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อเปิดพื้นที่ให้เกิดการแข่งขัน และเพิ่มการลงทุนอุตสาหกรรมเกมด้วย นายกรัฐมนตรียังได้เสนอให้มีการพัฒนาเกมในรูปแบบ Hospitality อาทิ การดูแลผู้สูงอายุ ช่วยเหลือผู้พิการ เพื่อเป็นการปลูกสร้างจิตสำนึกให้แก่ผู้เล่น

จากนั้น นายกรัฐมนตรีร่วมประชาสัมพันธ์ งาน “ช้อปวิถีใหม่ ส่งสุขทั่วไทยถึงหน้าบ้าน” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–23 ธ.ค. 63 ณ ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับบริษัทขนส่งภาคเอกชน พัฒนาและขยายตลาดสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะในเทศกาลปีใหม่นี้ ลดการเดินทางและลดการสัมผัส ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนายกฯ กล่าวชมการดำเนินโครงการว่า เป็นโครงการที่ดี สามารถต่อยอดพัฒนาการขายสินค้าแบบอีคอมเมิร์ซเพื่อช่วยสนับสนุนเกษตรกร ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนและบริโภคสินค้าเกษตรของไทย เบื้องต้นอาจเป็นการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ภายในประเทศ ต่อไปก็สามารถพัฒนาไปสู่อีคอมเมิร์ซในตลาดต่างประเทศได้  โดยภาครัฐร่วมมือกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น เมื่อซื้อสินค้าแล้วจัดส่งทางบริษัทขนส่ง อาจเพิ่มให้มีการลุ้นชิงโชคเพื่อรับรางวัลเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

          นายสุทธิพงษ์  จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้แนะนำเรื่องการจำหน่าย OTOP ให้เพิ่มระบบรวมสินค้าหลายจังหวัดอยู่ในตะกร้าของขวัญเดียวกันและมีระบบจัดส่งให้ถึงมือประชาชน ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้รับไปดำเนินการโดยเปิดให้สั่งจองผ่านระบบออนไลน์ OTOP Today เว็บไซต์www.otoptoday.com  ซื้อตรงได้ที่งาน OTOP City 2020 และที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทุกจังหวัด รวมทั้งบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด และOTOP Trader รวมทั้งจัดให้มีนักการตลาดรุ่นใหม่เพื่อช่วยพี่น้องผู้ประกอบการ OTOP ในเรื่องการตลาดประจำในทุกจังหวัดตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้แนะนำ

นอกจากนี้ นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กล่าวขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ผลักดันให้ความต้องการใช้ผ้าไทยมีเพิ่มมากขึ้นสร้างมูลค่ายอดจำหน่ายรอบปีที่ผ่านมาเกิน 100,000 ล้านบาท ด้วยการมีมติ ครม.ให้คนไทยช่วยกันสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ทั้งนี้พร้อมกล่าวเชิญชวนคนไทยร่วมงาน OTOP City 2020 ที่เป็นการรวมงานหัตถศิลป์ทรงคุณค่า มรดกภูมิปัญญาจากท้องถิ่น แพรพรรณงานผ้า ผลิตภัณฑ์สินค้าจากชุมชน มาจัดแสดงและจำหน่ายให้พี่น้องประชาชน เป็นของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าจากชุมชน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนจากภูมิปัญญาของคนไทย ที่คัดสรรจาก 76 จังหวัด เพื่อประชาชนคนไทย สุขใจทั้งผู้ผลิต ผู้ให้ ผู้ที่ได้รับมอบของขวัญ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น  ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาล

          ในการนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดงาน OTOP City 2020  ณ อาคารชาเลนเจอร์  1 - 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นงานใหญ่ปลายปี จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่ ล้ำค่าถูกใจ รวมไว้ใน OTOP City 2020” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 27 ธันวาคม 2563 ให้ผู้มาเที่ยวชมงานได้เลือกซื้ออย่างจุใจ

นอกจากนี้ ภายในงานท่านจะได้พบกับหลากหลายศิลปิน OTOP ของมีค่า ผ้างดงาม อาหารชวนชิม และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โดยสำหรับผู้ที่สนใจนั้น ขณะนี้ทุกจังหวัดมีกระเช้าของขวัญปีใหม่ OTOP ของแต่ละจังหวัดให้ได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด , ที่ว่าการอำเภอ และกลุ่ม OTOP, บริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด, OTOP Trader,  และสำหรับส่วนกลางสามารถเลือกซื้อผ่านกรมการพัฒนาชุมชน ทาง Website www.cdd.go.th และ  ทาง Website www.otoptoday.com

         “จึงขอถือโอกาสนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมกันอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนไทย ส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญางานหัตถศิลป์ทรงคุณค่า มรดกภูมิปัญญาจากท้องถิ่น แพรพรรณงานผ้าผลิตภัณฑ์สินค้าจากชุมชน ที่คัดสรรจาก 76 จังหวัด ร่วมอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อไป” อธิบดี พช. กล่าวเชิญชวน.