ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เลขาฯ ศอ.บต. ดูแลเด็กพิเศษในพื้นที่ จชต. สนองพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงห่วงใยให้มีการช่วยเหลือดูแล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต

วันที่ลงข่าว: 06/08/20

          วันที่ 4 สิงหาคม 2563 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จังหวัดยะลา คณะผู้บริหารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำโดยพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ลงพื้นที่ดูการดำเนินงานโครงการขยายผลการนำนวัตกรรมสำหรับการฟื้นฟูสภาพเด็กพิการ สนองแนวพระราชดำริ ในการช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวเด็กพิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ "เก้าอี้สุขใจ สู่ รองเท้าสั่งตัด ปีที่ 4" ซึ่งมีเด็ก ๆ เข้ารับการวัดขนาดเท้าเพื่อสั่งตัดและรับบริการทำกายภาพร่างกาย เพื่อให้แพทย์ประเมิน วินิจฉัยให้คำแนะนำการดูแลในระยะต่อไป ตามสภาพร่างกายและความพร้อมของเด็กแต่ละคน

          โดยโครงการการช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวเด็กพิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นโครงการที่ ศอ.บต. ขับเคลื่อนดูแลพี่น้องประชาชนตามพระราชดำริ โดยมีชุดอุปกรณ์เพื่อทำกายภาพร่างกาย 4 รายการ คือ รองเท้าสุขใจ เก้าอี้สุขใจ เตียงฝึกยืน และวอกเกอร์ พร้อมจัดจ้างนักกายภาพดูแลเด็กพิการในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้คำแนะนำการดูแลแก่ผู้ปกครอง การประเมินผลเบื้องต้น เป็นต้น เพื่อให้เด็กพิการในพื้นที่ช่วยเหลือตนเองได้ ให้ผู้ปกครองมีเวลาทำงาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของครอบครัว

          เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานว่า ภาพรวมถือเป็นเรื่องที่ดีและมีความสำคัญมากสำหรับประชาชนในพื้นที่ ที่เป็นกลุ่มคนเปราะบางและด้อยโอกาส รวมถึง ศอ.บต. เองได้ดำเนินการตามแนวทางพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรวงห่วงใยพสกนิกรในพื้นที่อย่างมาก ส่วนการดำเนินโครงการนั้นจะต้องดำเนินการครอบคลุมให้ได้ ตั้งแต่การจัดสรรอุปกรณ์ทั้งเก้าอี้สุขใจ รองเท้าสุขใจ และการฝึกด้านกายภาพ เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้สามารถช่วยเหลือตนเองได้และไม่เป็นภาระของครอบครัว และท้ายที่สุดเป็นการฝึกฝนด้านอาชีพ เพื่อให้มีรายได้หาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้

          นอกจากนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. เน้นย้ำ ให้มีการดำเนินการสืบค้นแหล่งของโรคที่เกิดขึ้น เพราะบางรายเหมือนเป็นพันธุกรรมที่เป็นพร้อมกันทั้ง 3 พี่น้อง ในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งจะต้องหาแหล่งที่มาของปัญหาให้ได้ เพื่อดำเนินการแก้ไขและป้องกันตั้งแต่ในครรภ์

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก