ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ 2 มกราคม

วันที่ลงข่าว: 14/01/20

           วันที่ 13 ม.ค. 63 เวลา 09.30 น. ที่ศาลาประชาคมบ้านหนองงูเหลือม หมู่ที่ 8 ตำบลเค็งใหญ่ อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ 2 มกราคม โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุขในพื้นที่ออกให้บริการช่วยเหลือประชาชนในการรักษาป้องกันโรค ส่งเสริมฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดาร 

            สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2551 ตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ เพื่อความผาสุกของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีพระหฤทัยแน่วแน่ในการช่วยเหลือประชาชนให้พ้นทุกข์และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งด้านการศึกษา วรรณคดี การสาธารณสุข การสังคมสงเคราะห์ อีกทั้งทรงเป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า” ทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ

            สำหรับกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ในครั้งนี้ ประกอบด้วย การให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป บริการทางทันตกรรม บริการแพทย์แผนไทย ตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง แจกเอกสารให้ความรู้ด้านสุขภาพอนามัย และการมอบยาชุดพระราชทาน จำนวน 50 หลังคาเรือน และการให้บริการจากหน่วยงานอื่นๆ ในระดับจังหวัดจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอำนาจเจริญประกอบด้วย การจดและต่อทะเบียนผู้พิการ การดูแลสภาพการจ้าง สภาพการทำงานของลูกจ้างในระบบและนอกระบบ รณรงค์การใช้เกลือไอโอดีนและประชาสัมพันธ์กิจกรรมหน่วยงาน การให้คำปรึกษาผู้ประสบปัญหาทางสังคม เด็ก เยาวชนและครอบครัว การประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงานว่างทั่วไป และการประชาสัมพันธ์ภารกิจด้านการฝึกอาชีพและรับสมัครฝึกอาชีพ 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก