ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รมช. พาณิชย์กัมพูชาพร้อมคณะลงพื้นที่ ตลาดไท เพื่อศึกษาระบบการบริหารจัดการตลาดกลางที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในอาเซียน

วันที่ลงข่าว: 30/08/19

            วันที่ 29 ส.ค.62 เวลา 14.00 น. ที่ตลาดไท อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสก โสเพียก รมช.พาณิชย์กัมพูชา พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ร่วมลงพื้นที่ตลาดไท ศึกษาระบบการบริหารจัดการตลาดกลางที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมี ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจตรี สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอําเภอคลองหลวง นางชไมพร ขวัญทอง พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี นายธรากร อังภูเบศวร์ กรรมการ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) ให้การต้อนรับ

            นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า งานเยี่ยมชมตลาดไท เพื่อศึกษาระบบการบริหารจัดการตลาดกลางที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในอาเซียนซึ่งเป็นการที่จะช่วยยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ปูทางสู่เป้าหมายการค้า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ในปี 2563 การลงพื้นที่ครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจร่วมกันในเรื่องการนำแนวทาง GAP ไปใช้ รวมทั้งเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของทั้งสองฝ่ายเพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันต่อไป โดยต้องการให้เห็นว่าสินค้าเกษตรไทยเป็นไปตามมาตรฐานสากล และแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของระบบการบริหารจัดการตลาดกลางสินค้าเกษตรที่ครบวงจรของไทยและใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยเน้นส่งออกพืชผลทางการเกษตร ความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาในครั้งนี้ จะยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะทำให้การพูดคุยในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-กัมพูชา ในครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2563 ที่ประเทศไทยจะมีความราบรื่นและสามารถประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้ไม่ยาก 

           ในปี 2561 กัมพูชาเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในอาเซียน และอันดับที่ 18 ของไทยในโลก ในปี 2561 การค้ารวมไทย-กัมพูชา มีมูลค่า 8,387.97 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 35.54 โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 6,851.96 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 การค้ารวมไทย-กัมพูชา อยู่ที่ 5,063.82 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.52 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์ และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ผักและของปรุงแต่งจากผัก ลวดและสายเคเบิ้ลที่หุ้มฉนวน อะลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ทองแดงและผลิตภัณฑ์

           ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า จังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดที่มีตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ Pathumthani Market 4.0 และเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ให้สามารถเติบโตไปสู่มูลค่าการค้าที่ตั้งเป้าหมายไว้โดยเร็วเท่านั้น

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก