ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ ร่วมกับชมรมคนห่วงหัว และจังหวัดกระบี่ เปิดโครงการสังคมห่วงใยใส่หมวกให้ลูกหลาน จังหวัดกระบี่

วันที่ลงข่าว: 07/08/19

       วันที่ 6 ส.ค. 62 ณ ห้องเกาะกลาง โรงแรมกระบี่ ฟรอนท์ เบย์ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พันตำรวจโท หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการสังคมไทยห่วงใยใส่หมวกให้ลูกหลาน จังหวัดกระบี่ โดยมีนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ นายดำรง พุฒตาล ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ ประธานชมรมคนห่วงหัว หัวหน้าหน่วยราชการ ผู้แทนภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน สื่อมวลชน จังหวัดกระบี่ ให้เกียรติร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก

          พันตำรวจโท หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่มีการใช้รถจักรยานยนต์มากจังหวัดหนึ่ง พฤติกรรมที่น่าห่วงใยก็คือการไม่สวมหมวกกันน็อค โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน เนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองมีความเชื่อว่าการขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งบุตรหลานระยะใกล้ ๆ ไม่อันตรายอะไร ซึ่งถือเป็นความเข้าใจที่ผิด ซึ่งในทางกฎหมายการที่พ่อแม่ผู้ปกครองนำบุตรหลานนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกกันน็อค ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กมาตรา 26 (2) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ในทางปฎิบัติเป็นเรื่องยากที่จะสามารถบังคับใช้กฎหมายในการจับเด็กเยาวชนไม่สวมหมวกนักน็อคได้

          จังหวัดกระบี่จึงได้ร่วมกับชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมโครงการสังคมไทยห่วงใยใส่หมวกให้ลูกหลาน จังหวัดกระบี่ ขึ้น ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะเชิญชวนชาวกระบี่ ทุกหมู่เหล่าร่วมกันระดมความคิดเห็น เพื่อหาแนวทางในการปกป้องความปลอดภัยของเด็กในจังหวัดกระบี่ให้เกิดความปลอดภัย เมื่อต้องโดยสารรถจักรยานยนต์ และสามารถจัดหาหมวกนิรภัยให้เด็กทุกคนได้สวมใส่

          นายดำรง พุฒตาล ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ ประธานชมรมคนห่วงหัว เปิดเผยว่า หน้าที่ผู้ปกครองต้องจัดหาหมวกกันน็อคใส่ให้บุตรหลานเมื่อซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เหมือนกับการฉีดวัคซีนป้องกันศรีษะให้กับบุตรหลาน ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ถือเป็นหน้าที่สำคัญของพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่ในความเป็นจริงทุกวันนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองละเลย ไม่ใส่ใจ ด้วยเหตุผลสารพัด ทำให้มีเด็กนับล้านชีวิต ที่อยู่บนรถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงที่จะได้รับการบาดเจ็บที่ศรีษะเสียชีวิต บาดเจ็บหรือพิการ ชมรมคนห่วงหัวจึงขอเชิญชวนชาวกระบี่มาร่วมแรงร่วมใจกันหาแนวทางช่วยกัน ทำให้ลูกหลานชาวกระบี่ปลอดภัยมีหมวกนิรภัยใส่ เพื่อลดความรุนแรงเมื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก