ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค จัดเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันที่ลงข่าว: 30/07/19

            วันที่ 26 ก.ค. 62  นายพิจิตร บุญทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.รณกร ปานกุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 นางธัญลักษณ์ วุฒิคุณ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ และคณะกรรมการเหล่าการชาด สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดบุรีรัมย์ ชมรมแม่บ้านมหาดไทย ชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดบุรีรัมย์ ในโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค สภาสังคมสงเคราะห์ 76 จังหวัด ประจำปี 2562 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา เดือนกรกฏาคม 2562 

            โดยก่อนจะเลี้ยงอาหารกลางวัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมกล่าวอาเศียรวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้และมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดบุรีรัมย์ มีเด็กและเยาวชนที่อยู่การดูแลที่มาจากพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 186 คน โดยร้อยละ 90 อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีเกี่ยวกับยาเสพติด รองลงมาเป็นคดีเกี่ยวกับด้านเพศ ร่างกาย และทรัพย์ โครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาคสภาสังคมสงเคราะห์ 76 จังหวัด ประจำปี 2562สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้น้อมเกล้าฯ รับพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดำเนินโครงการมาเป็นปีที่ 21 โดยดำเนินกิจกรรมจัดเลี้ยงอาหารแก่ผู้ตกงาน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน รวมไปถึงกิจกรรมอันเป็นสาธารณกุศลอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละจังหวัด ตามความเหมาะสมทั่วทั้งประเทศ 

            ในขณะเดียวกันที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัด ชมรมแม่บ้านมหาดไทย ฯลฯ จัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขัง เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก" ณ แดนผู้ต้องขังหญิง เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก