ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จังหวัดบุรีรัมย์ จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ที่ อ.แคนดง

วันที่ลงข่าว: 19/07/19

             วันที่ 18 ก.ค. 62 เวลา 09.30 น. นายเฉลียว ตาสีรัมย์ ผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ญ.กุสุมา เนรมิตตกพงศ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ นำแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ให้บริการประชาชนที่บริเวณโรงเรียนบ้านหัวฝาย หมู่ที่ 4 ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้บริการตรวจรักษาผู้เจ็บป่วย ยากไร้ในพื้นที่ห่างไกลโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยมีบริการด้านตรวจรักษาโรคทั่วไป บริการทันตกรรม การแพทย์แผนไทย มอบกายอุปกรณ์ และบริการทำแขน -ขาเทียมให้ผู้พิการ ซ่อมกายอุปกรณ์ บริการให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ และแพทย์ทางเลือกแก่ประชาชน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อสานต่อพระปณิธาน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงพระราชทานทุนแรกเริ่มก่อตั้งมูลนิธิแพทย์ พอ.สว. เพื่อช่วยเหลือประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดารให้มีสุขภาพอนามัยและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ประกอบด้วย อาสาสมัคร เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และบุคลากรอื่นๆ ตามความจำเป็น เดินทางไปยังหมู่บ้านที่มีสภาพทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก หรือไม่สามารถเดินทางไปรับบริการจากสถานพยาบาลได้ เป็นการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชน การป้องกันโรค รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้ท้องถิ่นเหล่านั้นพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน นอกจากนั้นแล้วยังมี ส่วนราชการในระดับจังหวัด อำเภอ นำงานในหน้าที่ออกไปให้บริการประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เดินทางยากลำบาก เป็นการลดขั้นตอนและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการติดต่อราชกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ 

            ซึ่งกิจกรรมการให้บริการประกอบไปด้วย การมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ มอบกายอุปกรณ์แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ มอบพันธุ์กล้าไม้ให้กับประชาชน มีการนำบริการด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์ จำหน่ายและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน บริการด้านแรงงาน การช่วยเหลือทางสังคม และอื่นๆอีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นการให้บริการแก่ประชาชนถึงพื้นที่ และเป็นการกระตุ้นให้ส่วนราชการต่างๆ ได้เข้าศึกษาสภาพปัญหา และรับรู้ความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด มีประชาชนไปเดินทางไปติดต่อขอรับบริการเป็นจำนวนมาก 

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก