ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ต้องยกย่อง! หนุ่มวัย 20 ปีหูหนวกตั้งแต่กำเนิดและพูดไม่ได้ เพิ่งจบ ม.ปลาย ตั้งใจฝึกฝนตัดผมจนฝีมือดีเตรียมเปิดร้านยึดเป็นอาชีพเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว แถมพบมีความสามารถด้านกีฬาเป็นนักฟุตซอลคนหูหนวกทีมชาติไทยด้วย

          วันที่ 23 มิ.ย. 62 รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า “ช่างบุ๋ม” นายนพพร เชื้อประยูร อายุ 37 ปี เจ้าของร้านตัดผม “เหลาหัว” บ้านถวาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งฝีมือเป็นที่ยอมรับกว้างขวางและขึ้นชื่อในเรื่องการตัดผมแกะลายต่างๆ ทั้งลายซูเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์ รวมทั้งสะท้อนประเด็นทางสังคม เช่น กรณียิงเสือดำ หรือกรณีบ้านป่าแหว่ง เป็นต้น ช่างบุ๋มเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่นอกจากจะฝีมือดีทั้งที่เพิ่งหัดเรียนตัดผมจนเป็นช่างได้ไม่นาน ขณะเดียวกันยังมีเรื่องราวส่วนตัวที่น่าสนใจอย่างมากและน่าจะเป็นแบบอย่างการใช้ชีวิตให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี เพราะเด็กหนุ่มคนนี้พิการหูหนวกมาตั้งแต่กำเนิด และไม่สามารถพูดได้ รวมทั้งยังมีความสามารถในการเล่นกีฬาฟุตซอลจนได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักกีฬาฟุตซอลคนหูหนวก ชุดเยาวทีมชาติไทยด้วย

           ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเด็กหนุ่มคนดังกล่าว คือ “น้องเนม” นายปฏิภาณ เครือเถาว์ อายุ 20 ปี ที่เพิ่งจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนางกมลพร เครือเถาว์ อายุ 49 ปี ได้พาไปเรียนและฝึกฝนการเป็นช่างตัดผมกับ “ช่างบุ๋ม” เนื่องจากได้ยินชื่อเสียงมานาน เพื่อหวังจะให้ลูกชายมีความรู้และมีอาชีพติดตัวไปตลอด โดยที่ตัวนางกมลพรร่วมเรียนไปพร้อมกันกับลูกชายด้วย เพื่อเป็นคนกลางในการสื่อสารระหว่างการเรียนตัดผมกับ “ช่างบุ๋ม” เพราะ “น้องเนม” หูหนวกไม่ได้ยินและพูดคุยไม่ได้ ซึ่งแม้จะค่อนข้างมีปัญหาอุปสรรคพอสมควร แต่ทุกอย่างสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จน “น้องเนม” และแม่สามารถตัดผมได้อย่างชำนาญและคล่องแคล่ว รวมทั้งเตรียมที่จะเปิดร้านของตัวเองในเร็วๆ นี้

          โดยนางกมลพร เครือเถาว์ อายุ 49 ปี แม่ของ “น้องเนม” เปิดเผยว่า “น้องเนม” หูหนวกมาตั้งแต่กำเนิด จึงทำให้มีความบกพร่องในการได้ยินและไม่สามารถพูดคุยสื่อสารได้เหมือนปกติ โดย “น้องเนม” เป็นลูกชายคนโต และมีน้องสาวอีกคนหนึ่งกำลังเรียนชั้น ม.4 ซึ่ง “น้องเนม” เพิ่งเรียนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และจากการพูดคุยกันเรื่องเรียนต่อกับลูกชายแล้วเห็นตรงกันว่าลูกชายอยากจะมุ่งไปทางสายอาชีพ ประกอบกับชื่นชอบในเรื่องของการตัดผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงสมัครเรียนตัดผมกับ “ช่างบุ๋ม” และวางแผนชีวิตว่าจะกลับไปเปิดร้านตัดผมเป็นของตัวเองอยู่ที่บ้านเกิด บ้านห้วยไคร้ ตำบลเวียง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เพราะ “น้องเนม” อยากอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวและมีอาชีพที่สร้างรายได้เป็นของตัวเองด้วย

          ขณะเดียวกัน นางกมลพรเปิดเผยว่า นอกจากความชื่นชอบในเรื่องของการตัดผมแล้ว “น้องเนม” ยังมีความสามารถในเรื่องการเล่นกีฬาด้วย โดยเล่นกีฬาฟุตซอลกับทีมโรงเรียนในตำแหน่งผู้รักษาประตูและเคยได้รับเลือกเป็นนักกีฬาตัวแทนจังหวัดและเขตเข้าร่วมการแข่งกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย รวมทั้งได้รับการคัดเลือกเป็นนักกีฬาฟุตซอลคนหูหนวกทีมชาติไทยไปแข่งขันด้วย ทั้งนี้ แม้ว่าหลังจากนี้ทางบ้านเตรียมจะเปิดร้านตัดผมให้โดยตั้งชื่อว่า “สล่าเกศา” ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายเดือน ก.ค. 62 นี้ แต่ทางครอบครัวยังคงสนับสนุน “น้องเนม” ในการเล่นกีฬาเป็นตัวแทนทีมชาติควบคู่กันไปด้วยหากได้รับการคัดเลือกให้ติดทีม เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ “น้องเนม” ทุ่มเทตั้งใจทำมาตลอดทั้งที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย ถือเป็นสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

          ด้าน “ช่างบุ๋ม” หรือ นายนพพร เชื้อประยูร เปิดเผยว่า ปกตินอกจากเปิดร้านตัดผมแล้วจะรับสอนตัดผมให้กับผู้ที่สนใจด้วย โดยจะรับเดือนละ 1 ครั้ง และครั้งละ 1 คนเท่านั้น เพื่อจะได้ติวเข้มให้ตัดผมได้อย่างชำนาญภายใน 1 เดือน ซึ่งเมื่อหลายเดือนก่อนได้รับการติดต่อจากนางกมลพรว่าต้องการลงเรียนตัดผม และได้ตกลงรับ โดยที่ครั้งแรกไม่ทราบว่าเป็นการสมัครเรียนให้กับ “น้องเนม” ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและพูดคุย จากนั้นเมื่อทราบในภายหลังรู้สึกลำบากใจมากว่าจะสอนกันอย่างไร แต่จากการพูดคุยกันและเห็นความตั้งใจจริงของ “น้องเนม” จึงแก้ไขปัญหาด้วยการให้นางกมลพร ร่วมเรียนไปพร้อมกันด้วยเพื่อเป็นคนกลางในการสื่อสาร 

          โดยช่วงแรกยอมรับว่าเป็นปัญหาอุปสรรคค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม การที่ “น้องเนม” มีความตั้งใจจริงและเรียนรู้ได้ดี ทำให้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันสามารถตัดผมได้อย่างชำนาญและคล่องแคล้ว เช่นเดียวกับนางกมลพร ผู้เป็นแม่ โดยนอกจากความสามารถในการตัดผมแล้ว ทราบว่า “น้องเนม” ยังเป็นนักกีฬาฟุตซอลคนหูหนวกทีมชาติไทยชุดเยาวชนด้วย ทำให้ตัวเองรู้สึกภูมิใจในตัว “น้องเนม” อย่างมาก เพราะถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตให้ผู้คนและหวังให้ “น้องเนม” ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ด้านด้วย