ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เจาะความคิด! "น้องฮับ" เด็กไทยอายุน้อยสุดจากทั่วโลกเข้ารอบ Google Science Fair

วันที่ลงข่าว: 13/06/19
          จีเนียสตัวจริง! เรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจของเด็กยุคใหม่ เจ๋งทั้งวิชาการ กีฬา ดนตรี! ฮับ - เหมวิช วาฤทธิ์ ผู้สร้างชื่อเสียงทำให้คนไทยฟีลกู้ดทั้งประเทศ หลังผ่านเข้ารอบลึก Google Science Fair เป็น 1 ใน 20 คน จากเด็กทั่วโลกแถมยังอายุน้อยที่สุดด้วย เพื่อเข้าเสนอโปรเจ็กซ์ ประดิษฐ์ครื่องช่วยพูดและฟังสำหรับผู้พิการทางหู ไม่เพียงแค่เก่งวิทย์ ยังเป็นเลิศทางกิจกรรม ร้องเพลง เล่นกีตาร์ ยิงธนูแข่งขันระดับโลก และพรั่งพร้อมไปด้วยหัวใจจิตสาธารณะ ชอบปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ขอคุณพ่อคุณแม่บวช ปีเว้นปี! 
จีเนียสตัวจิ๋วจิตสาธารณะ! 
เครื่องประดิษฐ์ครื่องช่วยพูดและฟังสำหรับผู้พิการทางได้ยิน
          “ผมสนใจด้านวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ตอนประถม เรื่องร่างกายมนุษย์ อนาคตผมก็ตั้งเป้าหมายว่าอยากจะเป็นหมอ เพราะอยากจะช่วยคนให้ดีขึ้น “ นี่คือความคิดความใฝ่ฝันของเด็กชายวัยเพียง 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวารีเชียงใหม่อินเตอร์เนชันแนล จ.เชียงใหม่ 
น้องฮับเปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ว่าแรงบันดาลใจในการทำเครื่องประดิษฐ์ครื่องช่วยพูดและฟังสำหรับผู้พิการทางหูนั้นเพราะอยากช่วยเหลือผู้พิการทางการได้ยิน 
 
         “ในฐานะที่ผมเล่นดนตรี ผมอยากให้เขาได้ลิ้มรสเสียงเพลง จึงอยากพัฒนาเครื่องช่วยฟังและพูด เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของผมเลยครับ จึงได้คิดทำโครงงานนี้ขึ้นมาโดยเขียนโปรแกรมและประดิษฐ์ผลงานนี้ขึ้นมา เพื่อส่งเข้าประกวดกับโครงการ”
          ทว่า ก่อนหน้านั้น น้องฮับได้นำแนวคิดนี้มาปรึกษาครอบครัว ประกอบกับเคยได้พูดคุยกับคนที่พิการทางหู เขามีน้ำเสียงที่ฟังดูเบา เหมือนไม่มีแรงและเสียงต่ำ จึงน่าจะทำให้คนเหล่านี้หลีกเลี่ยงการพูดและนำภาษามือมาใช้ในการสื่อสาร
มีอยู่วันหนึ่งขณะที่น้องฮับกำลังเล่นกีตาร์ แต่ไม่ได้ต่อแอมป์ที่เป็นตัวขยายเสียง และเสียงโทรทัศน์ที่เปิดก็ดังกว่า ทำให้เสียงกีตาร์เบามาก ขณะนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร ได้เอาคางไปแตะที่ตัวกีตาร์เพื่อจะฟังเสียง ปรากฏว่าเสียงดังขึ้น ชัดเจนขึ้น น้องฮับจึงเกิดแนวคิดว่า อาจจะนำมาใช้กับคนที่พิการทางหูได้ จึงได้นำมาพัฒนาโปรเจ็กซ์การทำเครื่องช่วยฟัง และการพัฒนาโปรแกรมฝึกการออกเสียงพูดขึ้น 
          จากนั้นได้เริ่มทดสอบและพัฒนาอุปกรณ์ ภายใต้ความร่วมมือกับโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร นำแนวทางการใช้กระบังลมจากการร้องเพลง มาช่วยฝึกให้คนพิการทางหูได้ทดลองเปล่งเสียงพูดหลังจากใส่อุปกรณ์เครื่องช่วยฟัง เมื่อผู้พิการได้ยินเสียงจะเกิดความกล้าที่จะทดลองเปล่งเสียงมากขึ้น
          ผลจากการทดสอบมาแล้วประมาณ 20 คน ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์ความรู้กระดูกหูจากคุณหมอ จนนำมาสู่การทดสอบที่โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร ได้เริ่มทดสอบอย่างไม่เป็นทางการและพัฒนาอุปกรณ์มาเรื่อย ๆ โดยน้องฮับได้นำแนวทางการใช้กระบังลมจากการร้องเพลง มาช่วยฝึกให้คนพิการทางหูให้เขาทดลองเปล่งเสียงพูด หลังจากใส่อุปกรณ์เครื่องช่วยฟัง เมื่อเขาได้ยิน เขาก็มีความกล้าที่จะทดลองเปล่งเสียง และก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่ส่งผลกระทบต่อหู หรือการติดเชื้อในช่องหูด้วย
          ในการแข่งขันโครงการครั้งนี้มีเด็กไทยที่เข้าแข่งขันจนถึงรอบ 100 คนสุดท้ายเพียง 2 คนที่เป็นคนไทย และน้องฮับเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยเข้าแข่งขันและเป็นเด็กไทยคนแรกที่เข้าถึงรอบ 20 คนสุดท้าย ซึ่งจะมีรอบตัดสินในเดือนกรกฎาคมนี้ที่สหรัฐอเมริกา 
 
“ผมได้เตรียมพร้อมเรื่องสไลด์ และการพรีเซนต์ ตอนนี้ก็กำลังเคร่งเครียดกับเรื่องนี้อยู่ครับ และก็มีการฝึกพูด 
          อนาคตก็อยากจะพัฒนาเครื่องช่วยฟังและซอฟท์แวร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อใช้ได้กับคนทั่วโลก ผมคิดว่าถ้าเรามี CrazyIdeas ที่เป็นไอเดียอะไรก็ได้ สามารถนำมาประยุกต์ และเดินหน้าพัฒนาต่อไป ”
ไม่เพียงแค่วิชาการจะดีเลิศ แต่ด้านดนตรี กีฬา ก็ไม่แพ้กัน น้องฮับได้เข้าประกวด The Voice Kids Season 2 เข้าถึงรอบ Battle เขาเริ่มร้องเพลงตั้งแต่อายุ 3 ขวบและฝึกเล่นกีตาร์ตอน 5 ขวบ แถมยังเป็นนักกีฬายิงธนูที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันระดับโลกอีกด้วย
          “หลังเลิกเรียนก็อาจจะไปยิงธนูบ้าง เล่นกีฬา ว่ายน้ำ เล่นกีตาร์ บางวันที่ผมรู้สึกอยากจะสำรวจอะไรก็จะหมกมุ่นอยู่กับวิทยาศาสตร์ ส่วนการเล่นกีฬายิงธนูนั้น ตอนผมเห็นคันธนูก็รู้สึกอยากลองยิงธนูดู จากนั้นก็เริ่มชอบ ผมก็เลยอยากที่จะเริ่มเล่นกีฬาและไปแข่ง จึงทำให้ผมมีโอกาสไปแข่งขันระดับโลก World Archery"
เปิดใจคุณแม่! เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นจีเนียส
          สำหรับคนที่ทำให้ให้เขากลายเป็นอัจฉริยะตัวน้อย และมีจิตใจดีงามอ่อนโยน ไอคิวล้ำ อีคิวเลิศ น้องฮับขอยกเครดิตให้กับผู้ให้กำเนิดทั้งสองของน้องทันที
 
“คุณพ่อคุณแม่บ่มเพาะมาดีครับ สอนผมในหลายๆเรื่อง เป็นผู้ผลักดันให้ผมเป็นอย่างทุกวันนี้”
 
ผู้บ่มเพาะคนสำคัญอย่าง คุณแม่นิชาพร วาฤทธิ์ เล่าให้ทีมข่าว MGR Live ถึงเคล็ดลับการเลี้ยงลูกให้เป็นคนมีศักยภาพขนาดนี้ ว่า
 
“คุณแม่โชคดีที่ได้เคยไปทำงานอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติมา 10 ปี แล้วเราได้ซึมซับวิธีการบ่มเพาะการเรียนการสอนเด็ก การแก้ไขปัญหาของคุณครูที่อยู่ที่โรงเรียน เราก็คิดว่าถ้าเรามีลูก เราจะนำสิ่งที่เราได้มีประสบการณ์ตรงนี้มาบ่มเพาะลูกเราเอง โดยที่เราไม่ได้คิดว่าการบ่มเพาะอย่างนี้ จะได้ผลค่อนข้างจะดีมากสำหรับลูกเรา
          เราบ่มเพาะลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ คือเราเห็นลูกจับกีตาร์ตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ เราก็เลยไปซื้อกีตาร์พลาสติกถูกๆ มาให้เขา เคาะจังหวะ เขาก็ร้องเพลง ดีดกีตาร์พลาสติก โดยได้ครูเบลล่า คอยจัดการเรียนการสอนให้ การสอนภาษาอังกฤษผ่านเนื้อเพลง เขาจึงได้ฝึกจังหวะ ได้โฟนิกส์ และซึมซับการชอบดนตรี จึงชอบร้องเพลงตั้งแต่เล็ก”
 
สิ่งสำคัญที่ทำให้น้องฮับเป็นเด็กที่มีความมั่นใจ กล้าคิด กล้าทำ นั่นคือการเลี้ยงดูแบบที่ผู้ปกครองต้อง "ให้ความเคารพในความคิดของลูก"
 
          “อย่างแรกคือ เราต้อง Respect ลูก สิ่งที่โรงเรียนนานาชาติสอนคุณแม่มา เราต้องให้ความเคารพเด็ก เคารพในความคิดของลูก เราจะต้องฟังเขาเหมือนเราพูดกับผู้ใหญ่ ตอนลูกตัวเล็กๆเราในฐานะพ่อแม่ต้องนั่งระดับเดียวกับลูก ให้เขารู้ว่าเราอยู่ระดับเดียวกับเขานะ และให้เขาพูดในสิ่งที่เราต้องการ และเราต้องฟัง หลังจากฟังแล้วเราถึงจะแนะนำ ชี้แนะ หรือให้กำลังใจ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก จนตอนนี้น้องฮับมีปัญหาอะไรก็จะปรึกษาเราตลอด เพราเขาจะรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องพูดกับคุณแม่และคุณพ่อนะ
 
          ส่วนเรื่องการเข้ารอบ Google Science Fair ได้นั้นต้องยกเครดิตให้กับคุณพ่อ ในฐานะที่เป็นอาจารย์ สอนที่คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คุณพ่อก็จะบ่มเพาะในแนวที่คุณพ่อสอนนักศึกษา 
 
กว่าจะได้ Submit กูเกิลก็ 2 ปี คือเราบ่มเพาะมานาน เพราะทุกขั้นตอนคุณพ่อจะให้น้องฮับทำเองหมด เขาจะต้องเข้าใจทุกกระบวนการ เพราะน้องฮับเป็นคนประดิษฐ์เอง บางทีคุณแม่แอบร้องไห้ด้วยความสงสารลูก เรารู้สึกว่าทำไมพ่อไม่บอกลูกบ้างเลย น้องฮับทำเองทุกสเต็ป
 
          เราไม่คิดว่าน้องฮับจะเข้ารอบลึกขนาดนี้ เพราะคิดว่าโครงการของเด็กๆอายุแค่นี้ คิดว่าคงไม่มีใครสนใจ แต่ถ้ามีคนเห็นจริงๆ มันต้องได้ เพราะเราให้กำลังใจลูกมาตลอดว่า ถ้าเราคิดดีทำดีก็มีผลดีกลับมา คือน้องฮับบวชตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เขาจะบวชปีเว้นปี ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิกับพ่อแม่มาตลอด 
ตอนติดรอบ 100 คน เราดีใจที่เด็กไทยติด 2 คน มีน้องฮับ และเด็กอีกคนอายุ 18 ปี ทำไมเด็กสมัยนี้ผลงานดีๆทั้งนั้น เราก็ปลาบปลื้มใจ ร้อยคนก็สุดยอดแล้วนะ แต่อยู่ๆกูเกิลเขาก็ขอสัมภาษณ์ออนไลน์ เขาก็ถามว่าทำไมถึงมาสมัครกูเกิล ทำไมถึงลงแข่ง น้องฮับก็บอกว่า 
 
“เพราะผมอยากประกาศให้โลกรู้ว่าโครงการของฮับมันคูลขนาดไหน” 
 
          นอกจากนี้ ความฝันของน้องฮับคือ เขาอยากจะได้รางวัลที่ 1 มาพัฒนาตัวต้นแบบ เพราะตอนที่เขาไปทดสอบคนหูหนวก กับคนหูตึง พวกเขาถามเราว่า ขอซื้อได้ไหม เขาชอบมาก เขาสามารถฝึกฟังเสียงผ่านซอฟท์แวร์ และฝึกพูดให้ชัดได้ ไม่ระคายเคืองหู 
          ทุกวันนี้เครื่องที่ถูกที่สุด เครื่องที่เสียบเข้าไปในหูแล้วมันระคายเคือง มันมีเสียงรบกวน เขาใส่ไม่ได้ เด็กหลายๆคนที่เราเห็นคือเขาไม่มีกำลังจะซื้อ ฮับก็เลยบอกว่า “ฮับอยากจะทำเป็น Social Enterprise ครับแม่”
เขาอยากทำเพื่อการกุศล ถ้าเขาอยากทำเราในฐานะพ่อแม่ก็จะช่วยลูกทำ เพราะมันคือกุศลที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”
 
ที่มาของข่าว https://mgronline.com/live/detail/9620000055674
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก