“การจ้างงานคนพิการทางจิต”
คนพิการทางจิตอาจจะได้โอกาสการเข้าทำงานน้อยกว่าคนพิการกลุ่มอื่น การที่จะรับคนพิการทางจิตเข้าไปทำงานก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ ความที่ไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าคนพิการทางจิตจะทำงานได้แล้วและจะต้องดูแลอย่างไรให้สามารถทำงานให้กับสถานประกอบการนั้นอย่างยั่งยืน อันนี้คือปัญหาที่ทางสมาคมกำลังหาทางออกให้กับคนพิการ แต่ทางออกอีกทางคือการใช้มาตรา ๓๕ โครงการอาชีพแต่ก็ยังได้น้อย แต่ขอฝากคนพิการทางจิตของเราสามารถทำงานได้และทำได้จริง สิ่งหนึ่งที่สมาคมทำคือ การฟื้นฟู การเตรียมความพร้อมให้ผู้ป่วยของเราสามารถออกสู่สังคมได้ และเรียนรู้เรื่องของการทำงานในสังคมโดยการทำงานแบบสมาคม และทางสมาคมก็ได้ให้ผู้ป่วยคิดว่าอยากทำอะไร อยากประกอบอาชีพอะไร ซึ่งตอนนี้มีบางรายที่สามารถประกอบอาชีพได้
มีตัวอย่างมีน้องอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ น้องสามารถผลิตสบู่ได้ และลองไปจำหน่าย และไปเปิดบูธขาย ปรากฏว่าขายดีมาก นี่ก็เป็นตัวอย่างอาชีพที่คนพิการทางจิตสามารถทำได้ แม้กระทั่งการทำงานเดโคพาท มีเครือข่ายที่พิษณุโลก ร้านเพื่อนที่ศรีธัญญา ผู้ป่วยจิตเวชก็ทำและก็มีฝีมือ พยายามให้คนพิการทางจิตได้เรียนรู้ ได้ทำงานในรูปแบบที่หลากหลาย ได้ทำในงานที่เขาอยากทำ เพราะคนพิการทางจิตถ้าไม่อยากทำก็จะไม่ทำเลย เพราะฉะนั้นก็จะมีงานที่เขาอยากทำและทำได้ สิ่งที่ขาดคือ โอกาสการจ้างงานจากหน่วยงานของเรามีน้อย
อยากให้มองคนพิการทางจิตเหมือนเขาเป็นแค่ผู้ป่วย อย่ามองว่าเป็นคนบ้าหรือผีบ้า เพราะคนพิการทางจิตเขาป่วยแต่ก็สามารถรักษาได้ หายได้ แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้นที่มีภาวะผิดปกติ ถ้าเจอพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงก็แค่แนะนำให้ไปหาหมอนะ หรือบอกญาติจะได้ดูแลกัน ถ้าเจอผู้ป่วยที่สามารถทำงานได้แล้วก็อยากจะให้โอกาสเขา อย่าซ้ำเติมเขา เพราะว่าหลายคนเมื่อไปทำงานแล้ว เพื่อนๆเห็นก็ไม่ยอมรับเมื่อทราบว่าเป็นคนพิการทางจิต ต้องเปลี่ยนที่นั่งใหม่ ไม่ยอมพูดคุย ทำให้ผู้ป่วยเครียดมากสุดท้ายก็ต้องกลับมาเข้าโรงพยาบาลอีก เห็นใจกันให้โอกาสกัน คนพิการทางจิตก็อยากมีจุดยืนเหมือนคนพิการประเภทอื่นๆเหมือนกัน