ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

“ส่งเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กออทิสติก”

บทสัมภาษณ์ : อาจาย์ชูศักดิ์ จันทยานนท์ ออกอากาศ : วันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙ รายการรวมใจเป็นหนึ่ง

     โรคออทิสติก ไม่ใช่โรคปัญญาอ่อน แต่เป็นโรคที่มีความผิดปกติของพัฒนาการทางสมองที่ล่าช้า 3 ด้านคือด้านสังคม ภาษาและพฤติกรรม พบตั้งแต่กำเนิด สังเกตพบได้ก่อนเด็กอายุ 3 ขวบ จากการติดตามสภาพปัญหาในระยะ 10 ปีมานี้ พบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมากทั่วโลก เป็นปัญหาเร่งด่วนของพัฒนาการล่าช้าของเด็กที่ต้องเร่งแก้ไข

 

      ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจัดบริการใกล้บ้านที่สุด โดยตั้งคลินิกส่งเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้าและเด็กออทิสติก ในโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทุกจังหวัดรวม 833 แห่ง โดยให้สถานบริการในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศที่มีประมาณ 10,583 แห่ง ตั้งแต่โรงพยาบาลศูนย์ ลงไปจนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพิ่มการตรวจคัดกรองหาภาวะออทิสติกในคลินิกสุขภาพเด็กดี (Well child clinic) ซึ่งให้บริการฉีดวัคซีนและติดตามพัฒนาการเด็กหลังคลอดทุกคนจนถึงอายุ 5 ปี โดยให้ตรวจเมื่อเด็กอายุ 1 ขวบครึ่งขึ้นไป เนื่องจากหากตรวจพบตั้งแต่ช่วง 2 ขวบปีแรก จะทำให้ผลการรักษาดีมาก แม้ไม่หายขาดแต่เด็กจะมีพัฒนาการด้านต่างๆ ดีขึ้น ช่วยเหลือตนเองได้ เข้าโรงเรียนได้ตามวัย ตั้งเป้าให้ครอบคลุมเด็กที่มีปัญหาอย่างน้อยร้อยละ 70

 

     โรคออทิสติกเป็น 1 ใน 4 ของโรคทางจิตเวชในเด็ก ที่กรมฯมีนโยบายเพิ่มการเข้าถึงบริการฯ มักพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง 4 เท่า เด็กกลุ่มนี้จะต้องได้รับบริการคัดกรองหาความผิดปกติ และบำบัดรักษากระตุ้นพัฒนาการ และการปรับพฤติกรรมอย่างมีมาตรฐาน ซึ่งเด็กออทิสติกมีความผิดปกติทางภาษาและสังคม จะแตกต่างกันที่ไอคิว โดยพบว่าร้อยละ 40 มีไอคิวปกติใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติในจำนวนนี้ร้อยละ 10 เป็นอัจฉริยะในบางด้าน เช่น การวาดภาพ หรือเล่นดนตรี อีกร้อยละ 20 มีไอคิวต่ำระดับน้อยถึงปานกลาง (50-69) เด็กกลุ่มนี้สามารถเรียนร่วมและฝึกอาชีพได้ อาจมีปัญหาพฤติกรรมร่วมด้วย ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 40 มีไอคิวต่ำกว่า 50 เป็นเด็กที่ชอบแสดงอาการก้าวร้าวแบบรุนแรง ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง

 

      ผู้ปกครองสามารถสังเกตพบอาการออทิสติกได้ก่อนที่เด็กจะมีอายุ 3 ปี หรือเริ่มสังเกตอาการได้ชัดเจนเมื่ออายุประมาณ 1 ปีครึ่งขึ้นไป อาการหลักๆ คือพัฒนาการช้าใน 3 ด้านเช่น 1.ด้านสังคม เด็กจะไม่ยอมสบตา ไม่ชอบมองหน้าคนอื่น ไม่สนใจมองตามเมื่อเราเรียกชื่อ ไม่สนใจผู้อื่น ไม่ชี้นิ้วสั่งหรือบอกเมื่อต้องการของที่อยากได้ 2.ด้านภาษาเช่น เริ่มพูดได้ช้ากว่าเด็กปกติ หรือพูดได้แต่ไม่เป็นภาษา ฟังไม่รู้เรื่อง ชอบพูดคำเดิมๆ ซ้ำๆ ทั้งวัน  และ 3.ด้านพฤติกรรม เช่น ชอบอยู่ในโลกส่วนตัว มีพฤติกรรมซ้ำๆ ที่ไม่เหมาะสม ชอบมองวัตถุที่หมุนตลอดเวลา เช่น พัดลมหรือของเล่นที่หมุนๆ หากเด็กมีอาการที่กล่าวมา ขอให้รีบพาไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน  

รายการรวมใจเป็นหนึ่ง ออกอากาศทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 18.30-19.00 น. ทางสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz และ AM 1161 kHz

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก