“วันดาวน์ซินโดรมโลก”
กรมสุขภาพจิต ได้ตระหนักถึงความสำคัญและได้ให้การส่งเสริมสุขภาพกายใจและการพัฒนาผู้มีอาการดาวน์ โดยมอบหมายให้สถาบันราชานุกูล พัฒนาความพร้อมที่จะเดินหน้าผลักดันการป้องกัน ส่งเสริม และฟื้นฟูดูแลผู้มีอาการดาวน์ แบบครบวงจร จัดบริการและพัฒนาเป็นคลินิกพิเศษเฉพาะด้านและครอบคลุมตั้งแต่แรกคลอด ถึง 18 ปี โดยกุมารแพทย์ จิตแพทย์และทีมนักวิชาการทุกสาขาที่มีความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาการ ให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพ การป้องกันโรคแทรกซ้อน พร้อมทั้งการดูแลด้านอารมณ์และการเรียนรู้ ซึ่งการเลี้ยงเด็กกลุ่มอาการดาวน์นั้น มีหลักการสามข้อที่ขอเน้นย้ำ คือ การใช้หลัก 3 H ได้แก่ การดูแลสุขภาพ (Health) การมีความหวัง (Hope) และการดูแลด้วยหัวใจของเรา (Heart) ตลอดจนการส่งเสริมพ่อแม่และสมาชิกในครอบครัว และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งโรงเรียน สถานประกอบการ เครือข่ายในชุมชน ช่วยกันพัฒนาเด็กให้มีคุณภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจตั้งแต่แรกเริ่มสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกท่านว่าอย่าท้อหรือถอดใจ เพราะเด็กดาวน์สามารถพัฒนาได้
นอกจากนี้ ด้านร่างกายและวิถีชีวิต เด็กกลุ่มนี้จะเกิดโรคอ้วนและปัญหาแทรกซ้อน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ได้ง่าย จำเป็นต้องตรวจสุขภาพและมีการส่งเสริมสุขภาพสม่ำเสมอ เพื่อความแข็งแรงและพัฒนาได้เต็มที่ Hope: เด็กกลุ่มนี้เมื่อมีสุขภาพที่ดีและมีการส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ต่อเนื่องตั้งแต่อายุน้อยๆ จะสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะด้วยอัตราที่แตกต่างจากเด็กทั่วไปบ้าง ดังนั้น การไม่ปิดกั้นการเรียนรู้ แต่มีการให้โอกาส ให้การแนะนำ ให้การสนับสนุนและให้เวลาแก่เด็ก จะช่วยให้เด็กกลุ่มนี้ “ทำได้” ทั้งในเรื่องการเรียนรู้ ไปโรงเรียน ดูแลตนเอง ช่วยเหลือครอบครัว ประกอบอาชีพและมีชีวิตที่เป็นอิสระและเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ร่วมในสังคมได้อย่างภาคภูมิ และ Heart: การดูแลเด็กที่แตกต่างอาจเป็นความเหนื่อยยากของพ่อแม่และครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ที่สามารถให้ความรัก ให้ความใกล้ชิด เข้าใจและยอมรับเด็กด้วยหัวใจ จะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลายากๆไปได้ โดยปัจจุบันนี้ เด็กๆและครอบครัวมีโอกาสในการได้รับสิทธิทางการแพทย์ การศึกษา การประกอบอาชีพและการใช้ชีวิตในสังคมหลายประการ เป็นอีกส่วนที่จะเอื้อให้พ่อแม่สามารถดูแลลูกด้วยหัวใจได้มากขึ้น