“ผลของการเปลี่ยนแปลงในครอบครัวที่ลูกมีอาชีพตาม กม. จ้างงานคนพิการ ม.33 และ 35”
การจ้างงานคนพิการตามมาตรา 33 ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการส่งสำเนาสมุดประจำตัวคนพิการ หรือสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ โดยให้คนพิการลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร ส่งสำเนาสัญญาจ้างซึ่งมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี และส่งสำเนา สปส. 1-10 ส่วนที่ 1 ที่ระบุยอดรวมจำนวนลูกจ้างประจำเดือนตุลาคม 2557 และสปส. 1-10 ส่วนที่ 2 ที่ระบุชื่อคนพิการของเดือนที่รายงาน มาพร้อมแนบรายงานการปฏิบัติตามกฎหมายในการจ้างงานคนพิการ
จ่ายเงินเข้ากองทุนตามมาตรา 34 ให้ส่งเงินเข้ากองทุนเป็นรายปี โดยให้ส่งเงินเข้ากองทุนในอัตรา 109,500.- บาท (300 บาท x 365 วัน) ต่อคนพิการที่ไม่ได้จ้าง 1 คน โดยส่งเป็นเงินสดหรือเช็คขีดคร่อม สั่งจ่าย “กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ”
จัดให้สัมปทาน หรือจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการโดยวิธีกรณีพิเศษ ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ล่ามภาษามือ หรือให้การช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 โดยมีหนังสือราชการแสดงการอนุมัติการดำเนินการตามมาตรา 35 ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดออกให้หลังจากได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
การให้สัมปทาน คือ การให้สิทธิแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ จากทรัพยากร หรือทรัพย์สินใดๆ เพื่อให้คนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการได้ใช้ประโยชน์ ในการประกอบอาชีพ ซึ่งต้องมีระยะเวลาในการดำเนินการไม่น้อยกว่า 1 ปี การจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ คือ การจัดสถานที่บริเวณองค์กรหรือภายนอกองค์กรเพื่อให้คนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ ซึ่งต้องมีระยะเวลาในการดำเนินการไม่น้อยกว่า 1 ปีหากนายจ้าง หรือสถานประกอบการใดประสงค์จะใช้สิทธิให้สัมปทาน หรือจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ ให้ไปติดต่อดาเนินการ หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สานักงานจัดหางานจังหวัด