The Bradley:นาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณ “สัมผัส” เวลาได้จริงๆ
คนตาบอดส่วนมากคงคุ้นเคยกับนาฬิกาข้อมือที่แสดงผลด้วยเสียง หรือแบบที่ใช้ดูเวลาด้วยการสัมผัสเข็มบนหน้าปัด ซึ่งนาฬิกาสำหรับคนตาบอดทั้งสองแบบที่ว่านี้ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป และคงมีหลายคนรู้สึกว่าทำไมนาฬิกาสำหรับคนตาบอดนี้มันช่างมีให้เลือกค่อนข้างจำกัดเหลือเกิน สำหรับใครที่แสวงหาความแปลกใหม่ วันนี้เรามีตัวเลือกนั้นมาให้ท่านแล้ว
นาฬิกาสำหรับคนตาบอดแนวคิดใหม่ล่าสุดนี้ได้ชื่อว่า “The Bradley” (เดอะ แบรดลี่) ซึ่งขณะนี้ยังเป็นโปรเจคอยู่บนเว็บไซต์ KickStarter ซึ่งเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับผู้ที่มีไอเดียในการสร้างสรรค์
ลักษณะการใช้งานนาฬิกาตัวนี้ เราสามารถดูเวลาได้ด้วยการ “สัมผัส” แต่มันแตกต่างจากนาฬิกาคลำที่เรารู้จักกันก็ตรงที่รูปร่างและลักษณะของตัวบอกเวลา ซึ่งก็คือ มันจะมีลูกเหล็กสองลูกให้เราสัมผัสเพื่อดูเวลา โดยที่บนหน้าปัดจะมีขีดเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเลข 1 ถึง 11 และตรงด้านบนสุดที่เป็นเลข 12 จะแทนด้วยเครื่องหมายสามเหลี่ยม และเจ้าลูกเหล็กนี้ก็จะสามารถวิ่งไปยังตำแหน่งตัวเลขต่างๆ ได้โดยใช้หลักการของแม่เหล็ก โดยที่ลูกเหล็กที่อยู่ด้านนอกจะเป็นตัวบอกนาที และลูกเหล็กอีกลูกที่อยู่ด้านในจะเป็นตัวบอกชั่วโมง
ขณะที่เราสัมผัสเพื่อดูเวลาก็อาจจะทำให้ลูกเหล็กเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิมไปได้ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะเพียงแค่เราสบัดข้อมือเล็กน้อย ลูกเหล็กทั้งสองลูกก็จะกลับสู่ตำแหน่งที่ถูกต้องเช่นเดิม เนื่องจากหลักการของแม่เหล็กที่ใช้ในนาฬิกาตัวนี้นั่นเอง

นาฬิกาตัวนี้ได้คิดค้นและทดสอบมาแล้วกว่า 2 ปี โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่าง นักออกแบบผลิตภัณฑ์ วิศวกร และผู้พิการทางสายตา คือนาย Bradley Snyder ซึ่งเขาตาบอดสนิทเนื่องจากเหตุระเบิดในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งมีผลงานคือเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ และคว้าเหรียญทองในการแข่งขันพาราลิมปิกส์ London 2012 มาได้อีกด้วย
ซึ่งขณะที่ลงข่าวนี้ (15/7/2013) เหลือเวลาสำหรับผู้สนใจร่วมลงขันอีก 31 วัน โดยโปรเจคนี้มีเป้าหมายสำหรับเงินสนับสนุนที่ 40,000 ดอลล่าร์ แต่ขณะนี้ได้รับการสนับสนุนไปแล้วถึง 200,524 ดอลล่าร์ ซึ่งมากกว่า 5 เท่าของเป้าหมายแรก แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจของโปรเจคนี้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นก็นับว่านาฬิกาตัวนี้มีความเป็นไปได้ในการออกมาเป็นสินค้าจริงๆ ค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับอีกหลายๆ โปรเจคที่มาระดมทุนบนเว็บ KickStarter นี้
สำหรับใครที่สนใจนาฬิกาตัวนี้มีกำหนดจัดส่งทั่วโลกราวๆ เดือนธันวาคม และคุณต้องสนับสนุนขั้นต่ำ 128 ดอลล่าร์ ถึงจะได้เป็นเจ้าของนาฬิกาตัวนี้ 1 เรือน แต่ถ้าหากรอจนนาฬิกาตัวนี้วางตลาดทั่วไปแล้วล่ะก็ คุณอาจจะต้องจ่ายถึง 180-190 ดอลล่าร์ เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของนาฬิกาตัวนี้สักเรือน
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากที่มา
ที่มา: KickStarter ผ่าน Mashable
ป.ล. ถ้าใครยังคิดว่านาฬิกาตัวนี้ยังแนวไม่พอ ก็คงต้องหวังกับ iWatch จาก Apple ที่พักหลังก็มีข่าวลือหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ว่าทาง Apple จะใส่ฟีเจอร์ VoiceOver มาให้เราใช้งานกันหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่ายากเกินไป เพราะขนาดใน iPod nano gen.6 ก็ยังมีฟีเจอร์ VoiceOver ให้เราพอใช้งานกันได้ อย่างน้อยๆ ใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ไม่ได้ ขอให้อ่านเวลาให้ฟังได้ ใช้เป็นนาฬิกาก็ยังดี