คุณแม่มีน้องอิ่มบุญเป็นลูกคนเดียว คุณแม่มีลูกเมื่อมีอายุเยอะแล้วจึงอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องมีความบกพร่องทางสติปัญญา คือมีภาวะดาวน์ซินโดรม ตอนนี้น้องอายุ 3 ขวบ ครอบครัวจะมีคุณแม่รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลน้อง ส่วนผู้ที่ออกไปหารายได้จะเป็นคุณพ่อ เป็นคนรับผิดชอบดูแลครอบครัว คุณพ่อมีอาชีพขายเสื้อผ้าแฟชั่น คุณแม่จึต้องเสียสละมาดูแลน้องเนื่องจากว่า การที่น้องมีคำว่าดาวน์ซินโดมจะมีพัฒนาการที่ช้าก็ต้องมีการกระตุ้นพัฒนาการโดยที่กระตุ้นตั้งแต่ในวัยเล็ก ๆ น้องก็จะมีพัฒนาการได้ตามที่เด็กปกติ แต่จะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนนาน คุณแม่จึงเสียสละเวลาคอยดูแลน้อง แล้วพาน้องไปฝึกพัฒนาการตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ที่โรงพยาบาลศิริราชและสถาบันราชานุกูล ถ้าเราได้พบกับความพิการเร็วได้ฟื้นฟูน้องเร็วน้องก็จะมีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพตัวเองได้ดีขึ้น

          ในปี 2562  ได้รับการตอบรับจากธนาคารกรุงไทยจำกัดมหาชน ได้ตอบรับทั้งหมดจำนวน 10 โครงการของแต่ละครอบครัวซึ่งมีอาชีพเดิมอยู่แล้ว และต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพแต่ละคนเขียนโครงการของตนเองเข้าไปแต่ว่าแม่เป็นตัวแทนในการรวบรวมโครงการยื่นไป 17 ครอบครัวแล้วก็นำเสนอเข้าไปที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อให้ธนาคารกรุงไทยพิจารณา ในเรื่องของเทคนิคคือคุณแม่จะติดต่อไปหลาย ๆ ที่ แล้วทำโครงการทำสำเนาทั้งหมดและนำเสนอ เมื่อธนาคารพิจารณาว่าโครงการมีความเหมาะสมจึงให้เงินสนับสนุน 

          คุณแม่รู้สึกว่ามีข้อดีข้อเสียหรือว่ามีปัญหาอุปสรรคอย่างไร ในส่วนของมาตรา 35 ก่อนเป็นอันดับแรกประเภทความพิการมีหลายประเภท ของน้องที่มีปัญหาพิการทางสติปัญญาจะไม่เหมาะกับมาตรา 33 เลยมองว่าค่อนข้างยาก แต่ก็ต้องขอบคุณธนาคารกรุงไทย ในการสนับสนุนและการมีส่วนร่วมของสังคมที่หลาย ๆ สถานที่ หลาย ๆ สถานประกอบการ หลาย ๆ บริษัท กำลังช่วยกันคนละไม้คนละมือ เปิดโอกาสให้ครอบครัวของคนพิการของเด็กพิการหรือว่าตัวคนพิการเอง อยากได้งานทำมีรายได้และสามารถพึ่งพาตัวเองได้ด้วย 

          อยากจะให้หน่วยงานของรัฐช่วยเหลือกลุ่มเด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา เพราะต้องการพัฒนาเขาให้เขาเป็นคนที่มีศักยภาพ อย่างน้อยสามารถดูแลตนเองได้ไม่เป็นภาระของสังคม และอยากจะให้การสนับสนุนเรื่องของการจ้างงานในมาตรา 35 ด้วย