กฎหมายกำหนดให้ว่าต้องมีผู้ช่วยคนพิการในการไปดูแลคนพิการ(PA)ในพื้นที่ มีระเบียบออกมาที่ว่า คนที่จะมาเป็น PA ต้องเป็นผู้ที่สมัครใจ พร้อมรับการอบรม PA ผู้ช่วยคนพิการเบื้องต้น เพื่อดูแลคนพิการในชุมชน PA หรือ ผู้ช่วยคนพิการเบื้องต้น เมื่อลงพื้นที่ในการดูแลคนพิการที่มีคุณสมบัติที่จะเป็น PA นั่นคือคนที่คิดว่าไม่มีภารกิจงานยุ่งมาก มีเวลาลงพื้นที่ไปดูแลคนพิการส่วนใหญ่คนที่มาสมัครเป็นคนที่ทำงานเกี่ยวกับคนพิการอาจจะเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขเป็นอาสาสมัคร นักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับคนพิการโดยตรงก็มีมาสมัครเป็นผู้ช่วยคนพิการเพื่อที่จะไปดูแลคนพิการในชุมชนของตนเองของแต่ละจังหวัด

          หลังจากผ่านการอบรมแล้วแต่ละจังหวัดวางหลักเกณฑ์การทำงานให้กับ ผู้ช่วยคนพิการที่ผ่านการอบรมเพื่อลงไปปฏิบัติงาน และมีค่าตอบแทนค่าน้ำมันรถให้ เมื่อไปดูแลคนพิการซึ่งทางรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายให้ผู้ช่วยคนพิการโดยคิดเป็นชั่วโมง ผู้ช่วยคนพิการจะช่วยแนะนำในการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้จะมีหมอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ลงลงไปดูแลดูแลคนพิการที่เขาดูแลตัวเองได้ไม่ค่อยดีอีกด้วย

          สำหรับอาสาสมัครดูแลคนพิการจิตเวช หรือว่าผู้ช่วยคนพิการนั้น อาสาสมัครดูแลคนพิการหรือผู้ช่วยคนพิการ สามารถทำเป็นอาชีพได้ ต้องเป็นคนที่มีจิตใจดี สามารถประกอบอาชีพประจำได้ นอกจากนี้ผู้ช่วยคนพิการสามารถไปทำได้กับผู้พิการทุกประเภท ถ้าคนพิการแจ้งความประสงค์ เช่น จังหวัดนครปฐมจะมีผู้ช่วยคนพิการให้บริการกับคนพิการในจังหวัดนครปฐม เป็นคนที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นแต่ยังไม่มีงานทำ มีสุขภาพแข็งแรง และต้องมีใจรักที่จะดูแลคนพิการ

          การอบรมกฎหมายด้านการช่วยเหลือคนพิการ ทั้งด้านการเสนอให้ปรับปรุงกฎหมายเรื่องการดูแลคนพิการ ผู้ช่วยคนพิการจะต้องปรับสภาพจิตใจอย่างไร ปรับทัศนคติอย่างไรในการที่จะไปอยู่ร่วมหรือปฏิบัติหน้าร่วมกับผู้ป่วยจิตเวชปัญหาหลักคือ เรื่องการไปหาหมอเรื่องการดูแลตัวเอง การดำเนินชีวิตประจำวัน ผู้ช่วยจะช่วยแนะนำเบื้องต้น และสุดท้ายยังมีเรื่องอาชีพคนพิการที่คนพิการจิตเวชสามารถทำได้ สิ่งที่สำคัญอยากให้สังคมให้โอกาสผู้ป่วยทางจิตเวชว่าเขาเหล่านั้นสามารถอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างปกติสุข