ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

นานาสาระ : การท่องเที่ยวของคนตาบอด ร่วมกับ ททท.

แนะนำและติชมรายการได้ที่ รายการรวมใจเป็นหนึ่ง ถ.ศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 รายการรวมใจเป็นหนึ่ง : ออกอากาศ 29 มิถุนายน 2562

           การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมนำเที่ยวให้แก่กลุ่มผู้พิการทางสายตา จากมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภายใต้โครงการ “เมืองไทย ใคร ๆ ก็เที่ยวได้ Tourism for All” เส้นทางกรุงเทพฯ สระบุรี พระนครศรีอยุธยา มอบความสุขให้แก่กลุ่มผู้พิการทางสายตาให้มีโอกาสในการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวมากขึ้น ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง จัดกิจกรรมนำเที่ยวให้แก่กลุ่มผู้พิการทางสายตา จากมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภายใต้โครงการ “เมืองไทย ใคร ๆ ก็เที่ยวได้ Tourism for All” เส้นทางกรุงเทพฯ สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ได้รับเกียรติจาก คุณศรีพร เภกะนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานและร่วมเดินทางในกิจกรรมพาน้องผู้พิการทางสายตาไปท่องเที่ยว คุณรสพร ยสนิวาตวงศ์ รองประธานกรรมการ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวต้อนรับ ร่วมด้วย นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการ กองตลาดภาคกลาง ภูมิภาคภาคกลาง นายทวีเดช ทองอ่อน ผู้อำนวยการ กองบริหารความยั่งยืน รวมทั้งคณะคุณครู เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และ เจ้าหน้าที่ ททท. จิตอาสา ร่วมเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้อง ๆ รวมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนกว่าร้อยคน

           ซึ่งกิจกรรมนี้กองบริหารความยั่งยืน สำนักผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จับมือกับ กองตลาดภาคกลาง ภูมิภาคภาคกลาง ร่วมกันจัดกิจกรรมท่องเที่ยวพาน้องผู้พิการทางสายตา จำนวน 64 คน อายุ 10-18 ปี จากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ฟาร์มโคนม (อสค.) สระบุรี ฝึกขี่ม้า ให้อาหารม้า ร่วมรับประทานอาหารกลางวันแบบสเต็ก ณ ฟาร์มโคนม (อสค.) สระบุรี จัดโดยร้านบิ๊กโจ่ย สเต็กเฮ้าส์สระบุรี และในช่วงบ่ายร่วมกิจกรรมขี่ช้างสัมผัสบรรยากาศโดยรอบของวังช้างและอุทยานประวัติศาสตร์ มรดกโลกพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำประโยชน์เพื่อสังคมในบทบาทของการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ Responsible Tourism ในช่วงเย็นถึงค่ำร่วมงานจัดเลี้ยงสังสรรค์และกิจกรรมสันทนาการ ณ ห้องอาหารดาหลา โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ โดย นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมงานและกล่าวต้อนรับทักทายน้องๆ ผู้พิการทางสายตาอย่างเป็นกันเอง โดยมี นายบดินทร์ เกษมศานติ์ นายอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา กล่าวต้อนรับและร่วมกิจกกรรมแจกรางวัลมอบความสุขให้กับน้อง ๆ ผู้พิการทางสายตา บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานและรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ น้อง ๆ ผู้พิการทางสายตามีโอกาสได้โชว์ความสามารถในการร้องเพลงบนเวที ร่วมชมและฟังการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินตาบอด “พี่เบิร์ด” พงศ์ศักดิ์ หมื่นไฉน ซึ่งเป็นไอดอลของน้อง ๆ หลายคน สร้างความสุขสนุกสนานและประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน

          สำหรับกิจกรรมในวันที่สอง ททท. ได้นำน้อง ๆ ผู้พิการทางสายตาและคณะร่วมเดินทางไป วัดไชยวัฒนาราม พระนครศรีอยุธยา เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ฟังการบรรยายจากวิทยากรณ์ เดินสำรวจและสัมผัสบรรยากาศซึมซับประวัติศาสตร์อันเป็นมรดกโลกเก่าแก่ของไทยโดยมีพี่เลี้ยงจิตอาสาช่วยกันบอกเล่าให้ได้รับรู้ และเดินทางไปชม พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารโรงแรมริเวิอร์วิว อยุธยา โดยมีไฮไลท์เป็นกุ้งเผาที่หลายคนชื่นชอบ ให้น้อง ๆ และคณะได้อิ่มอร่อยก่อนเดินทางกลับ ซึ่งกิจกรรมดี ๆ ของ ททท. นี้สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนได้อิ่มใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ตอกย้ำและยืนยันได้ว่า “เมืองไทย ใคร ๆ ก็เที่ยวได้” สามารถทำได้จริง 

          คุณศรีพร เภกะนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับกิจกรรมครั้งนี้สื่อให้เข้าใจโดยการสัมผัสเป็นหลัก เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่เด็ก ๆ จุดหนึ่งที่เราให้ความระมัดระวังมากคือในเรื่องความปลอดภัย เพราะว่าน้อง ๆ มีข้อจำกัดทางด้านสายตาเพราะฉะนั้นเรามีการเตรียมการก่อนที่จะมาล่วงหน้า มีการประชุมวางแผนกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพี่เลี้ยงหรือจิตอาสาที่มาจากกองงานต่าง ๆ ของ ททท. คำว่า Tourism for All ในความหมายก็คือ ทุกคน ทุกกลุ่ม สามารถที่จะเที่ยวได้ สามารถที่จะมีความสุขได้ ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดในเรื่องใด ๆ ก็ตาม

          เพราะฉะนั้น ททท. ก็เลยคิดแคมเปญ “เมืองไทย ใคร ๆ ก็เที่ยวได้” ขึ้น และกิจกรรมนี้ก็เป็นกิจกรรมที่ เราจะพยายามตอกย้ำจุดนี้ให้เห็นว่าในเมืองไทยมีอีกมากมายให้น่าเที่ยว และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่เหมาะสมกับทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกวัย ทุกอาชีพ ดังนั้นเรื่องใดที่ทาง ททท. ช่วยได้ ก็จะะเข้าไปสนับสนุน หรือไปทำ pilot project เพราะฉะนั้นมีความต่อเนื่องหรือความยั่งยืนต่าง ๆ ของแต่ละกิจกรรมก็ขึ้นอยู่กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แค่ไหน และเข้ามาช่วยกันทำให้แนวคิดเหล่านี้มีความยั่งยืนในระยะยาว เพระว่าน้อง ๆ ที่เราเห็นเหล่านี้ถึงแม้ว่าเขาจะมีข้อจำกัดทางสายตา แต่เขาก็มีศักยภาพในเรื่องอื่น ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทักษะในเรื่องของการร้องเพลง และทักษะในด้านการจดจำโดยผ่านการได้ยินจะมีความละเอียดมาก ซึ่งน้อง ๆ เหล่านี้สามารถมารถที่จะเป็นบุคลากรที่สำคัญต่อไปของประเทศชาติได้ค่ะ”

          ด้านนายทวีเดช ทองอ่อน ผู้อำนวยการ กองบริหารความยั่งยืน กล่าววว่า “ในปัจจุบันนี้เราให้ความสำคัญเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ในความหมายการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนหมายถึงว่า กิจกรรมท่องเที่ยวที่เราเดินทางไปเที่ยวเราต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยวด้วย คำนึงถึงชุมชนที่อยู่โดยรอบในแหล่งท่องเที่ยว และสิ่งสำคัญที่เราพูดถึงโดยตลอดก็คือ การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งที่นำรายได้กลับสู่ชุมชน เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนหมายถึงการผนวกรวมทั้งสามสิ่งรวมกันคือ ชุมชน วัฒนธรรม และรายได้ การเดินทางไปท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวใด ๆ ก็แล้วแต่ ไม่ได้หมายถึงนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงผู้ประกอบการในแหล่งท่องเที่ยวนั้น ๆ ด้วย การนำคณะนักท่องเที่ยวเข้าไปต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่าเป็นการเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อแหล่งท่องเที่ยวของเรานั่นเอง

          สำหรับการท่องเที่ยวในทริปนี้ เราอาจจะคุ้นชินกับกลุ่มนักท่องเที่ยวปกติอย่างเราๆ ท่านๆ แต่เรายังมีกลุ่มคนที่อยู่ในประเทศเราอีกก็คือกลุ่มที่มีความด้วยโอกาสหรือกลุ่มผู้พิการต่าง ๆ ซึ่งหมายรวมถึงไปถึงกลุ่มผู้พิการทางสายตา ซึ่งเรานำมาเที่ยวในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างกองตลาดภาคกลาง ภูมิภาคภาคกลาง และ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำนักเรียนตาบอดทั้งสิ้นกว่า 60 ชีวิต รวมทั้งจิตอาสาของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ครู อาจารย์ ในโรงเรียนสอนคนตาบอดมาท่องเที่ยว สงสัยไหมครับว่าคนตาบอดเขาสามารถมาท่องเที่ยวได้อย่างไร ในการเดินทางท่องเที่ยวถึงแม้ตาเขาจะมองไม่เห็นแต่เขาสามารถสัมผัสจากประสาทสัมผัสอื่น ๆ เช่น ประสาทสัมผัสทางหู ฟังเรื่องราวของจิตอาสา เรื่องราวที่พี่เลี้ยงถ่ายทอดให้เขาฟังว่าภาพข้างหน้าเป็นอย่างไร เขาพบเจออะไร หรือสัมผัสด้วยมือของเขาเอง ได้จับช้างตัวเป็นๆ ได้ขึ้นไปขี่ช้าง ได้ขี่ม้า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้สามารถทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ และทำให้กลุ่มเยาวชนคนตาบอดมีความสุขกับการเดินทางได้ครับ” 

          ขณะที่ นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการ กองตลาดภาคกลาง ภูมิภาคภาคกลาง เผยว่า “เราได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากการเน้นการสร้างรายได้ให้กับประเทศแล้ว เราก็ยังมีโครงการที่ทำเพื่อสังคมด้วย เป็นโครงการ “เมืองไทย ใคร ๆ ก็เที่ยวได้” โดยผู้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ก็จะเป็นเด็กนักเรียนที่มีความพิการทางสายตา จากมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นการท่องเที่ยวที่มุ่งหวังจะให้เป็นสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้คุณภาพชีวิตของคนไทยเราดีขึ้น

          โดยให้โอกาสกับน้อง ๆ มาเดินทางท่องเที่ยว ได้รับความรู้และได้สัมผัสกับประสบการณ์จริง ซึ่งเราได้พาน้อง ๆ ไปที่ฟาร์มโคมนมไทยเดนมาร์ก ขององค์การส่งเสริมโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ให้น้อง ๆ ได้ไปรีดนมวัว ได้ไปขี่ม้า ให้น้อง ๆ มีความสุข และหลังจากนั้นในช่วงบ่ายได้พาน้อง ๆ ไปนั่งช้างที่วังช้างพระนครศรีอยุธยา ช่วยส่งเสริมให้ครอบครัวของน้อง ๆ มีความสุขด้วย เป็นการทำประโยชน์ให้กับสังคม วันนี้เราพาน้อง ๆ มาที่วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ได้มาซึมซับกับความเป็นมาของประเทศไทยเรา คิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการหนึ่งที่ช่วยให้สังคมเราแข็งแรง ลดความเหลี่อมล้ำทางสังคม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็จะทำโครงการดี ๆ เหล่านี้ต่อไปครับ”

 

รายการรวมใจเป็นหนึ่ง ออกอากาศทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 18.30-19.00 น. ทางสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz และ AM 1161 kHz

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก