“งานวิจัย ของสภาการศึกษา ตอน 2”
การส่งเสริมนวัตกรรมการศึกษาแบบเรียนรวม มีงานศิลปะหัตถกรรม แต่ไม่เคยเห็นงานประกวดแบบนี้เลย การเรียนการสอนของครูและเด็กพิเศษจะเน้นเรื่องศิลปะหัตถกรรม และยังมีอีกหลาย ๆ นวัตกรรมที่ยังไม่ได้นำมาปรับสอนกับเด็ก ต่อไปอยากเห็นหลักสูตรที่จัดทำให้เด็กพิเศษและเด็กพิการมีทางเลือกที่จะเรียนมากขึ้น สำหรับหลักสูตรระยะสั้น ระยะยาว
การประเมินศักยภาพผู้เรียนต้องมีระบบประเมินที่เชื่อมต่อกัน และที่สำคัญในระบบโรงเรียนคือ ต้องมีหลักสูตรสถานศึกษาที่ใส่เรื่องเด็กพิการเข้าไป ระบบเตรียมความพร้อม การจัดสภาพแวดล้อม การจัดระบบการเรียนที่เรียกว่า UDL การประเมินผลที่มีการปรับ ผู้บริหารโรงเรียนต้องผ่านการอบรมการศึกษาพิเศษ นี่คือสิ่งหนึ่งที่ค้นพบคิดว่าน่าจะไปได้ มีข้อเสนอเกี่ยวกับแผน เรื่องหลักสูตรอบรมเรียนรวมสำหรับผู้บริหาร หลักสูตรเรียนรวมอาจจะต้องมีหลักสูตรเฉพาะด้าน การสอนในห้องเรียนคู่ขนานได้ถูกบรรจุไว้ในนโยบายของสภาการศึกษาและนโยบายหลักสูตรการสอนครูในระบบห้องเรียนคู่ขนาน
งานวิจัยของสถาการศึกษาชี้ชัดเลยว่า ความเข้าใจของครูกับผู้บริหาร ถ้าครู ผอ. ผู้ปกครอง ศึกษานิเทศก์ เขตทุกฝ่ายเข้าใจ แล้วประเมินเด็กตามสภาพจริง เด็กจบแล้วแต่สถานศึกษาไม่ให้ผ่าน แต่ถ้าทุกฝ่ายเข้าใจทุกอย่างก็จะผ่านไปง่าย ทำโดยไม่ต้องรอให้แก้พระราชบัญญัติ อีกไม่กี่วันจะมี พรบ.ฉบับใหม่ออกมา ซึ่งใช้โรงเรียนเป็นฐาน สอนแบบบูรณาการ ประเมินตามสภาพจริง ผู้เรียนเป็นสำคัญ ความคิดเดียวกันหมดถ้าออกมารูปแบบนี้ นี่คือสิ่งหนึ่งที่น่าจะเกิดขึ้นทันที ส่วนที่สองอาจจะใช้เวลาคือเรื่องของแผนพัฒนาศึกษาพิเศษ ข้อเสนอของสภาการศึกษาต้องการให้มีแผนพัฒนาการศึกษาพิเศษในระดับสถานศึกษาระดับพื้นที่ ปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการนโยบายการศึกษาปล่อยเขาไป เรามาทำในระดับจังหวัดแทนก็ได้ แต่ต้องร่วมมือกันระหว่าง นักวิชาการตัวแทนคนพิการ ผู้ปกครอง และ พรบ.ใหม่ที่กำลังจะประกาศ หลักสูตรใหม่มีหลายฉบับ หลักสูตรปฐมวัย หลักสูตรเตรียมความพร้อม หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใส่เรื่องห้องเรียนรวมเข้าไป ห้องเรียนคู่ขนาน สนับสนุนการเรียนรู้ เป้าหมายตัวชี้วัด ถ้าเป็นคณะกรรมการการศึกษาน่าจะเข้าใจ อีกเรื่องที่สำคัญตัวสื่อการเรียนรู้ของเด็กในงานวิจัยบอกว่าสื่อที่ทำให้เด็กพิเศษใช้สื่อ ๒ กระทรวง แต่พอถึงโรงเรียนเด็กไม่สามารถใช้ได้ เพราะไม่ตรงกับความต้องการของเด็ก เป็นไปได้ไหม