ที่ห้องประชุมสมิหลา 1 โรงแรมบีพี สมิหลา บีช รีสอร์ท จ.สงขลา นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ นางรัตนา จงสุทธานามณี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยและฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และผช.ศ.เฉลิมพล บุญมงคล ผู้แทนสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกันลงนามการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันและแถลงข่าวการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 46 เจียงฮายเกมส์ และการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาต ครั้งที่ 36 น้ำกกเกมส์ ซึ่งจ.เชียงรายจะเป็นเจ้าภาพต่อจาก จ.สงขลา ซึ่งเป็นเจ้าภาพในปีนี้
       นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะประธานการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36 เจียงฮายเกมส์ และการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 36 น้ำกกเกมส์ การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ห่างเหินมานานถึง 32 ปี ครั้งสุดท้ายเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติเมื่อปี 2528 หากเทียบกับสงขลายังถือเป็นมือรองอย่างมาก แต่มีความมั่นใจว่าจะสามารถจัดได้อย่างสมบูรณ์แบบเนื่องจากมีแรงบันดาลใจคืออาจารย์เฉลิมชัย ที่เข้ามาช่วยเหลือในด้านการจัดรูปแบบงานให้มีความยิ่งใหญ่ ที่ให้ความมั่นใจไม่แพ้จังหวัดอื่นๆที่เคยจัดมาแล้ว โดยช่วงเวลาการจัดกรแข่งขันเป็นช่วงฤดูหนาว ที่เป็นฤดูท่องเที่ยว ทำให้มีความเหมาะสมทั้งการแข่งขันและการท่องเที่ยวที่จะต้อนรับผู้ไปเยือน มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สืบทอดมานานกว่า 1,000 ปี ซึ่งผู้ไปแข่งขันหรือผู้ไปร่วมเชียร์รับรองไม่ผิดหวังการแข่งขันไม่ได้จัดเพียงสถานที่เดียวแต่กระจายไปถึง 5 สนามทั้งสนามของภาครัฐและเอกชน โดยสนามแข่งขันแต่ละที่มีความพร้อมและความสวยงามเชื่อว่าจะประทับใจแก่ทั้งผู้แข่งขันและผู้ไปชม โดยระยะเวลาที่เหลืออีกปีกว่าๆ จะพยายามจัดให้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้สงขลา โดยความพร้อมด้านการคมนาคมเชียงรายสามารถไปได้ทั้งทางบกและทางเครื่องบิน
นางรัตนา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ โดยรับปากว่าจะจัดการแข่งขันให้ออกมาดีที่สุดและยินดีต้อนรับผู้เข้าร่วมแข่งขัน และผู้ไปเยือนทุกท่าน โดยจ.เชียงรายโชคดีที่มีทางศิลปินแห่งชาติอย่าง ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย ให้การสนับสนุน โดยยอมรับว่าจ.สงขลาได้จัดการแข่งขันได้ออกมาดีอย่างยิ่ง ทางจ.เชียงรายจะนำไปเป็นแบบอย่างและพัฒนาให้จัดได้ดีกว่าให้ได้ โดยนอกจากจะจัดให้ออกมาดีที่สุดแล้วยังถูกต้องตามหลักของการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย
       ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า ในอดีตกีฬาแห่งชาติถือว่าเป็นสิ่งที่น่าเบื่ออย่างมาก เพราะที่ผ่านมามีการจัดแข่งขันขึ้นมาให้ผ่านๆไปเท่านั้น แต่ที่ จ.สงขลา ตนให้ความสนใจพิเศษ เพราะจัดก่อนเชียงรายและจัดได้ดี แต่ทางตนยืนยันว่าจะช่วยจังหวัดจัดให้ดีกว่า เพราะตนไม่ติดเรื่องงบประมาณ เนื่องจากระบบราชการการเบิกจ่ายจะต้องมีระเบียบหลายขั้นตอน ดังนั้นเพื่อให้การกีฬามีความยิ่งใหญ่จึงจะเสนอความช่วยเหลือ โดยจัดให้ยิ่งใหญ่งบการกีฬามีเท่าไหร่ขาดเหลือเท่าไหร่จะช่วยจ่ายเอง โดยจะดึงพรรคพวกเพื่อนฝูงที่มีเงินมาช่วย สงขลาจัดทำเสื้อกีฬาขายได้ 80,000-100,000 ตัว แต่ทางตนตั้งใจจะออกแบบให้มีเอกลักษณ์ให้ขายได้มากกว่าคิดว่าจะทำออกมาขายมากกว่า 200,000 ตัว
"สิ่งที่แตกต่างของการแข่งขันกีฬาไม่ได้อยู่ที่การแข่งขัน ที่นักกีฬาเข้าห้ำหั่นกัน แต่อยู่ที่รูปแบบการจัดการแข่งขัน โดยเฉพาะการเปิดการแข่งขัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันทั่วไปมีการแข่งขันกันไม่เฉพาะกีฬา แต่แข่งขันกันในเรื่องของพิธีเปิดและปิด การแข่งขันที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพก็เช่นกันจะทำให้ออกมาแล้วให้เกิดความทรงจำ รวมถึงเหรียญกีฬาที่จะใช้ในการแข่งขัน โดยตนจะทำเหรียญออกมาสวยงามงดงามที่สุดและมีคุณค่าที่สุด เพื่อมอบให้กับนักกีฬา ซึ่งจะเป็นความภาคภูมิใจที่นักกีฬาหรือลูกหลานนำไปเก็บไว้หรือนำไปขายได้ในอนาคต ไม่ไช่เหรียญทั่วไปเหมือนที่ทุกจังหวัดจัดทำมาเป็นเหรียญธรรมดาๆ "ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย กล่าวและว่าทั้งนี้จะได้มีการพูดคุยกับทางบริษัทรับจัดทำเหรียญและเสื้อ เพื่อจะผลิตเหรียญหรือเสื้อให้ออกมาดีที่สุดต่อไป
       ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่าการจัดการแข่งกีฬาที่เชียงรายจะจัดด้วยงบประมาณมากที่สุดที่ทุกจังหวัดเคยจัดมา แต่งบประมาณของการกีฬาแห่งประเทศไทยจะเท่าเดิม โดยจะมีการพูดคุยกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทยว่าจะมีอิสระในการจัดแข่งขันได้หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำเสื้อ ทำเหรียญและรูปแบบพิธีเปิด โดยให้เหล่าศิลปินเป็นผู้รังสรรค์ขึ้น เพื่อให้เกิดความน่าสนใจของการแข่งขันกีฬาในอนาคต หากหน่วยงานต่างๆ ยังยึดติดรูปแบบเดิมๆ และไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย ตนก็จะวางมือโดยปล่อยให้เป็นไปตามสภาพเดิมๆ
       โดยนายสกล กล่าวว่าการแข่งขันกีฬาแห่งชาติได้มีการปรับเปลี่ยนมาตั้งแต่ปี 2553 สมัยก่อนมีการจัดแข่งในนามเขต แบ่งออกเป็น 10 เขต ซึ่งไม่บ่งบอกถึงความเป็นเลิศของด้านการกีฬาของแต่ละจังหวัดที่แท้จริง ระยะหลังเพื่อให้เป็นสากลระดับนานาชาติมากขึ้น จึงให้จัดมีการแข่งขันเป็นรายจังหวัดให้จังหวัดทุกจังหวัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งนอกจากนักกีฬาจะเป็นตัวแทนของจังหวัดนั้นๆ การจัดการแข่งขันจังหวัดใด ประชาชนจังหวัดนั้นก็มีส่วนร่วมในการต้อนรับเหล่าทัพนักกีฬาและผู้ร่วมมาชม โดยการแข่งขันที่จ.เชียงราย จะประเดิมการแข่งขันใน 41 ชนิดกีฬา ที่ถือว่ามีการแข่งขันชนิดกีฬามากกว่าซีเกมส์ เชื่อว่าจะเป็นหน้าตาของประเทศไทย และคาดว่าจะมีนักกีฬาและผู้ติดตามเข้าไปในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 คน ไม่นับรวมกลุ่มนักท่องเที่ยวหรือผู้ไปชมกีฬาทั่วไปด้วย
       นายสกล กล่าวถึงกรณีศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่าความอิสระในการจัดการแข่งขันนั้นทางการกีฬาแห่งประเทศไทยไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ที่แน่นอน หรือให้คนใดคนหนึ่งดำเนินการ แต่ต้องการให้เป็นของส่วนรวมที่คนในจังหวัดนั้นๆ ดำเนินการ โดยอนุมัติให้จังหวัดนั้นๆ จำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดใหญ่ที่มีกำลังก็จะจัดได้ยิ่งใหญ่ แต่บางจังหวัดก็จัดได้เพียงตามงบประมาณเพราะมีข้อจำกัดด้านความช่วยเหลือ เนื่องจากไม่ได้มีการการช่วยเหลือจากภาคเอกชนเหมือนที่ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย เข้ามาช่วยกันทุกคน โดยเสื้อนั้นจะต้องมีตราของโลโก้แบรนด์ที่สนับสนุนงบประมาณอยู่ ส่วนเหรียญเป็นเพียงเหรียญที่ระลึกที่ทำกันในราคาไม่สูงเพราะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ส่วนกรณี จ.เชียงรายจะทำเหรียญพิเศษมีราคาแพงเป็นหลักพันหลักหมื่นก็สามารถทำได้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยไม่ได้ห้าม ยิ่งหากเป็นการทำเพื่อประเทศ เพื่อการกีฬา หรือด้านศิลปวัฒนธรรมก็พร้อมให้การสนับสนุนและเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี
       ทั้งนี้การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 46 เจียงฮายเกมส์ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-28 พฤศจิกายน 2561 และการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ น้ำกกเกมส์ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 มกราคม 2562 ที่จะถึงนี้