สรุปสาระสำคัญ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ
สรุปสาระสำคัญ
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ
Convention on the Rights of Persons with Disabilities (CRPD)
ความเป็นมา
เนื่องจากกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่อาจประกันการคุ้มครองสอทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานและความเสมอภาคของคนพิการได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ในปี พ.ศ.2545 องค์การสหประชาชาติจึงได้แต่งตั้งคณะทำงานยกร่างอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ(Convention on the Rights of Persons with Disabilities -CRPD) ขึ้น ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2549 ที่ประชุมเต็มคณะของสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญที่ 61 ได้มีมติรับรองอนุสัญญา CRPD และพิธีสารเลือกรับ (Optional protocol) ของอนุสัญญา CRPD
อนุสัญญา CRPD
เป็นกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ส่งเสริมพิทักษ์และรับรองให้คนพิการได้รับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเสรีภาพขั้นพื้นฐานและมีความเสมอภาคอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งส่งเสริมการเคารพศักดิ์ศรีที่มีมาแต่กำเนิดของคนพิการอนุสัญญาฉบับนี้ยังเป็นอนุสัญญาฉบับแรก ที่ครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของคนพิการ ไม่เฉพาะด้านพลเมืองเท่านั้น แต่รวมถึงเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และชีวิตครองครัวอีกด้วย
อนุสัญญา CRPD ให้ความสำคัญในเรื่องต่อไปนี้
· เคารพศักดิ์ศรีที่มีมาแต่กำเนิด การอยู่ได้ด้วยตนเองเสรีภาพในการตัดสินใจด้วยตนเอง และความเป็นอิสระของบุคคล
· ไม่เลือกปฏิบัติต่อคนพิการ
· การมีส่วนร่วม การเข้าร่วมของคนพิการได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพในสังคม
· เคารพความแตกต่าง ยอมรับคนพิการว่าเป็นส่วนหนึ่งของความแตกต่างของมนุษยชาติและความเป็นมนุษย์
· ความเทียมของโอกาส
· การเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้
· ความเสมอภาคระหว่างชายกับหญิง
· การเคารพขีดความสารถของเด็กพิการที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องและการเคารพสิทธิของเด็กพิการอย่างต่อเนื่องและการเคารพสิทธิของเด็กพิการเพื่อสงวนรักษาอัตลักษณ์แห่งตน
กฎหมายไทยที่สอดคล้องกับอนุสัญญา CRPD
· รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
· พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2)พ.ศ.2545
· พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545
· พรบ.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ.2546และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2)พ.ศ.2550
· พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550
· พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550
· พรบ.การจัดการศึกษาสำรับคนพิการ พ.ศ.2551
สิทธิของคนพิการตามอนุสัญญา CRPD
· สิทธิความเท่าเทียมและการไม่เลือกปฏิบัติ
· สิทธิการมีชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงของบุคคล
· สิทธิได้รับการยอมรับว่ามีความสามารถตามกฎหมายบนพื้นฐานอันเท่าเทียมกัน
· เสรีภาพจาการถูกทรมาน
· เสรีภาพจาการถูกแสวงหาประโยชน์ การใช้ความรุนแรงและการล่วงละเมิด
· สิทธิที่จะได้รับการเคารพต่อศักดิ์ศรี ทางร่างกายและจิตใจ
· เสรีภาพในการย้ายถิ่นฐานและการถือสัญชาติ
· สิทธิในการอาศัยอยู่ในชุมชน
· เสรีภาพในการแสดงออและแสดงความคิดเห็น
· สิทธิการเคารพการเป็นส่วนตัว
· สิทธิการเคารพในการสร้างครอบครัว และสถาบันครอบครัว
· สิทธิด้านสุขภาพ
· สิทธิทางการศึกษา
· สิทธิด้านการทำงาน
· สิทธิสำหรับมาตรฐานความเป็นอยู่ที่เพียงพอ
· สิทธิการมีส่วนร่วมทางการเมืองและเรื่องสาธารณ
· สิทธิการมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรม นันทนาการการผ่อนคลายยามว่างและกีฬา
บทบาทของรัฐภาคี
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีของอนุสัญญา CRPD โดยการให้สัตยาบัน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 ซึ่งมีผลบังคับใช้ให้ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในอนุสัญญาตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2551 เป็นต้นไป
การเป็นรัฐภาคีมีนัยว่ารัฐบาลประเทศนั้นตระหนักว่ามีการเลือกปฏิบัติต่อคนพิการมิได้ จะต้องเคารพ คุ้มครองและสิทธิที่พึงมีแก่คนพิการเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป นอกจานี้จะต้องมีการปฏิบัติดังนี้
1. รัฐภาคีจะต้องกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบหลัก(Focal Point) เพื่อเป็นกลไกประสานงานภาครัฐ ดูแลประเด็นที่สนับสนุนการดำเนินงาน ในภาคส่วนต่างๆ และประเทศไทยได้กำหนดให้กระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักตามอนุสัญญาฉบับนี้
2. รัฐภาคีจะต้องจัดตั้งโครงสร้างภายใน เพื่อส่งเสริมพิทักษ์และติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฉบับนี้ เช่น ตั้งคณะกรรมการที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับอนุสัญญา โดยมีองค์ประกอบที่มาจากทุกภาคส่วน
3. รัฐภาคีจะต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมโดยเฉพาะคนพิการ และองค์กรของคนพิการให้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการติดตามการดำเนินงาน
4. รัฐภาคีจะต้องมรการจัดทำรายงานเกี่ยวกับมาตรการในการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาภายในเวลา 2 ปี หลังจากอนุสัญญามีผลบังคับใช้ และหลังจากนั้นต้องส่งฉบับต่อๆ ไป อย่างน้อยทุกๆ 4 ปี หรือเมื่อคณะกรรมการร้องขอ